พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลายจังหวัด

ภูมิภาค 23 ธ.ค.-สถานการณ์โควิด-19 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลายจังหวัด เช่น นครราชสีมา เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ส่วนใหญ่เชื่อมโยงตลาดกลางกุ้ง ด้าน จ.สมุทรสงคราม สั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราวถึง 4 ม.ค.64

ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม แถลงติดโควิดยืนยัน 6 ราย รอผล 2 ราย มีทั้งข้าราชการและพ่อค้าแม่ค้า พร้อมสั่งปิด อบต.ดอนมะโนรา ตรวจแรงงานต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวน 780 คน


เมื่อเวลา 18.30 น. เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามพร้อมคณะ แถลงว่า จากการสอบสวนโรค 257 คน เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรคสูง 105 คน ผลปรากฏว่าเป็นบวกจำนวน 8 คน แต่หลังจากตรวจซ้ำทราบผลเมื่อเวลา 18.00 น. ยืนยันติดเชื้อจำนวน 6 คน ทั้งหมดเป็นคนไทย เป็นชาย 3 คน และหญิง 3 คน ประกอบด้วยบ้านอยู่ ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ทำงานราชการที่ จ.สมุทรสงคราม 1 คน เป็นพ่อค้าแม่ค้าในจังหวัดสมุทรสงครามที่ไปค้าขายสัตว์น้ำที่ จ.สมุทรสาคร 4 คน และเป็นเจ้าหน้าที่ อบต.ดอนมะโนรา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม 1 คน ส่วนอีก 2 คนรอการยืนยัน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้งหมดกักตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม และวันนี้ยังมีผู้ที่ได้รับการนำเข้าตรวจหาเชื้ออีกกว่า 100 คน อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบสวนโรคตรวจหาเชื้อกลุ่มผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ยืนยันติดเชื้อ ซึ่งมีจำนวน 32 คน และขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในระหว่างกักตัวที่โรงพยาบาล นอกจากนี้จะทำการสำรวจแหล่งเพาะโรคในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 10 แห่ง โดยจะตรวจแรงงานต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวน 780 คน เพื่อให้ชัดเจนว่าจะไม่มีต่างด้าวในพื้นที่เล็ดลอดไปรับเชื้อจากนอกพื้นที่มาเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้


นอกจากนี้จังหวัดสมุทรสงคราม ยังออกคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราวตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2563 ไปจนถึง 4 มกราคม 2564 รวมไปถึงสถานที่อื่นๆ อีก 28 รายการ เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ ร้านเกม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถาบันกวดวิชา ร้านสปาล้านนวด ค่ายมวย สระว่ายน้ำ คลินิกความงาม สนามกีฬา เป็นต้นส่วนร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่ม ให้เปิดบริการได้แต่ให้นำกลับไปทางที่บ้าน และยกเว้นในโรงพยาบาล หรือที่พักอาศัย พร้อมมีประกาศมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติม 4 ประเด็น 1.งดจัดงาน กิจกรรม ที่มีคนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นงานของหน่วยงานใดก็ตาม 2.งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง 3.งดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติหรือบุคคลผู้เป็นกลุ่มเสี่ยง 4.งดการนำสินค้าหรือยานพาหะนำจากพื้นที่เสี่ยงทั้งทางบกและทางน้ำ พร้อมสั่งปิดสถานทำงานของผู้ติดเชื้อ เช่น อบต.ดอนมะโนรา อ.บางคนที และ หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง

ส่วนที่นนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขนนทบุรี เเจ้งไทม์ไลน์ผู้ป่วย รายที่ 118 (รายที่ 2 ของ การระบาดรอบใหม่) จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 25 ปี ที่อยู่วัดสลักใต้ ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว 5 ราย (สามี พ่อและแม่สามี ลูกชาย ญาติสามี) ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ทำงาน 12 ราย

นอกจากนี้ยังแจ้งไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 3 ของการระบาดรอบใหม่ ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 119 โดยเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 31 ปี ที่อยู่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี


ส่วนที่ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 40 ปี มีประวัติเดินทางไปเกาะลันตาจังหวัดกระบี่ ในวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนที่มาจากจังหวัดสมุทรสาคร มีการสัมผัสใกล้ชิดกอดและจับมือกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และภายหลังพบว่าบุคคลดังกล่าวมีการยืนยันว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อ ต่อมาในวันที่13 ธ.ค. ผู้ป่วยเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ตและได้ทำงานที่ร้านโดยไม่สวมหน้ากาก และในวันที่ 16 เริ่มมีอาการป่วย และทราบข่าวว่าเพื่อนติดเชื้อจึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในวันที่19 ธ.ค. กระทั่งพบว่าติดเชื้อ

ส่วนการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง 28 ราย มีอาการป่วย 3 ราย ส่งรักษาในโรงพยาบาล มีผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 10 ราย ทุกรายอาการปกติ

ที่นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ชี้แจงไทม์ไลน์ของชายอายุ 57 ปี อาชีพพ่อค้าอาหารทะเล ชาว อ.พิมาย ที่ยืนยันว่าติดเชื้อ หลังจากเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ่อค้าอาหารทะเลรายนี้มีอาการไข้และมีน้ำมูล จึงเดินทางมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพิมาย ก่อนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ส่วนประวัติการเดินทางของชายอายุ 57 ปี พ่อค้าอาหารทะเล ที่ไปรับซื้อมาจากตลาดมหาชัยมาโดยตลอดแทบทุกวัน หรือ 1-2 วันครั้ง โดยเดินทางใกล้ชิดกับลูกชาย 1 คน และคนงานลูกจ้างอีก 7 คน ครั้งล่าสุดคือ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก่อนนำอาหารทะเลทั้งกุ้งสดและปลาหมึก ไปเปิดแผงขายตามตลาดนัดหลายแห่ง ทั้งในเขต อ.ชุมพวง อ.ห้วยแถลง อ.จักราช จ.นครราชสีมา รวมถึงเขต อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

ที่พระนครศรีอยุธยา นพ.พีระ อารียรัตน์ นายสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อ 2 ราย เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 33 ปี (มีอาการ) และ อายุ 29 ปี (ไม่มีอาการ) อาศัยบ้านเดียวกัน มีอาชีพ เป็นแม่ค้าขายอาหารทะเล อยู่ที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี อำเภอภาชี และเดินทางไปซื้อของมาขายจากตลาดทะเลไทยจังหวัดสมุทรสาคร นำมาจำหน่ายที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี โดยมีการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม กลุ่มร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงจำนวน 2 ร้าน ค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม โดยประชาชนที่มาซื้ออาหารทะเล ที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี ในระหว่างวันที่ 8-16 ธันวาคม 2563 ซึ่งพบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 5 ราย

ส่วนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากกรณีที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรายหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ในหน่วยเลือกตั้ง หมู่ที่ 5 บ้านปู่เจ้า ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงเช้าของวันที่ 20 ธันวาคม หลังจากที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหนองไผ่ทราบข่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ จนทราบว่าบุคคลดังกล่าว เป็นชาย อายุ 64 ปี มีอาชีพเป็นคนรับจ้างขับรถให้กับนายจ้างไปซื้อของทะเลที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร เพื่อนำมาตระเวนจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้บุคคลทั้ง 2 กักตัวอยู่ที่บ้านของตนเอง เพื่อรอเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 และล่าสุด ผลการตรวจบุคคลทั้ง 2 ปรากฏว่า ผลเป็นบวกเพียงรายเดียว คือ ชายอายุ 64 ปี ส่วนนายจ้างไม่พบเชื้อ แต่ต้องกักตัว 14 วัน

และที่กำแพงเพชร นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 2 รายเชื่อมโยงกับตลาดแพปลา จ.สมุทรสาคร

โดยรายที่ 1 เพศชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี ต.กำแพงเพชร มีอาชีพขายอาหารทะเล โดยเดินทางไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ในลักษณะไป-กลับ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษณบุรี ผลพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 6 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 3 ราย รอผลการตรวจ 3 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 3 ราย

รายที่ 2 เพศชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มีอาชีพขับรถส่งอาหารทะเลตลาดแม่กลอง -ตลาดทะเลไทย เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลคลองขลุง ผลพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย ตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 2 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 3 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปมขอรับบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอรับบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาล-กองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]