พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลายจังหวัด

ภูมิภาค 23 ธ.ค.-สถานการณ์โควิด-19 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มหลายจังหวัด เช่น นครราชสีมา เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร ส่วนใหญ่เชื่อมโยงตลาดกลางกุ้ง ด้าน จ.สมุทรสงคราม สั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราวถึง 4 ม.ค.64

ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม แถลงติดโควิดยืนยัน 6 ราย รอผล 2 ราย มีทั้งข้าราชการและพ่อค้าแม่ค้า พร้อมสั่งปิด อบต.ดอนมะโนรา ตรวจแรงงานต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวน 780 คน


เมื่อเวลา 18.30 น. เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามพร้อมคณะ แถลงว่า จากการสอบสวนโรค 257 คน เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสโรคสูง 105 คน ผลปรากฏว่าเป็นบวกจำนวน 8 คน แต่หลังจากตรวจซ้ำทราบผลเมื่อเวลา 18.00 น. ยืนยันติดเชื้อจำนวน 6 คน ทั้งหมดเป็นคนไทย เป็นชาย 3 คน และหญิง 3 คน ประกอบด้วยบ้านอยู่ ต.มหาชัย จ.สมุทรสาคร ทำงานราชการที่ จ.สมุทรสงคราม 1 คน เป็นพ่อค้าแม่ค้าในจังหวัดสมุทรสงครามที่ไปค้าขายสัตว์น้ำที่ จ.สมุทรสาคร 4 คน และเป็นเจ้าหน้าที่ อบต.ดอนมะโนรา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม 1 คน ส่วนอีก 2 คนรอการยืนยัน

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้งหมดกักตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม และวันนี้ยังมีผู้ที่ได้รับการนำเข้าตรวจหาเชื้ออีกกว่า 100 คน อย่างไรก็ตาม จะทำการสอบสวนโรคตรวจหาเชื้อกลุ่มผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ยืนยันติดเชื้อ ซึ่งมีจำนวน 32 คน และขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในระหว่างกักตัวที่โรงพยาบาล นอกจากนี้จะทำการสำรวจแหล่งเพาะโรคในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 10 แห่ง โดยจะตรวจแรงงานต่างด้าวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวน 780 คน เพื่อให้ชัดเจนว่าจะไม่มีต่างด้าวในพื้นที่เล็ดลอดไปรับเชื้อจากนอกพื้นที่มาเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้


นอกจากนี้จังหวัดสมุทรสงคราม ยังออกคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงชั่วคราวตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2563 ไปจนถึง 4 มกราคม 2564 รวมไปถึงสถานที่อื่นๆ อีก 28 รายการ เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ ร้านเกม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถาบันกวดวิชา ร้านสปาล้านนวด ค่ายมวย สระว่ายน้ำ คลินิกความงาม สนามกีฬา เป็นต้นส่วนร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่ม ให้เปิดบริการได้แต่ให้นำกลับไปทางที่บ้าน และยกเว้นในโรงพยาบาล หรือที่พักอาศัย พร้อมมีประกาศมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติม 4 ประเด็น 1.งดจัดงาน กิจกรรม ที่มีคนจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นงานของหน่วยงานใดก็ตาม 2.งดการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง 3.งดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติหรือบุคคลผู้เป็นกลุ่มเสี่ยง 4.งดการนำสินค้าหรือยานพาหะนำจากพื้นที่เสี่ยงทั้งทางบกและทางน้ำ พร้อมสั่งปิดสถานทำงานของผู้ติดเชื้อ เช่น อบต.ดอนมะโนรา อ.บางคนที และ หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง

ส่วนที่นนทบุรี สำนักงานสาธารณสุขนนทบุรี เเจ้งไทม์ไลน์ผู้ป่วย รายที่ 118 (รายที่ 2 ของ การระบาดรอบใหม่) จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 25 ปี ที่อยู่วัดสลักใต้ ตำบลบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว 5 ราย (สามี พ่อและแม่สามี ลูกชาย ญาติสามี) ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ทำงาน 12 ราย

นอกจากนี้ยังแจ้งไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 3 ของการระบาดรอบใหม่ ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 119 โดยเป็นผู้ป่วยชายไทย อายุ 31 ปี ที่อยู่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี


ส่วนที่ภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 40 ปี มีประวัติเดินทางไปเกาะลันตาจังหวัดกระบี่ ในวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเพื่อนที่มาจากจังหวัดสมุทรสาคร มีการสัมผัสใกล้ชิดกอดและจับมือกันโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และภายหลังพบว่าบุคคลดังกล่าวมีการยืนยันว่าเป็นผู้ที่ติดเชื้อ ต่อมาในวันที่13 ธ.ค. ผู้ป่วยเดินทางกลับจังหวัดภูเก็ตและได้ทำงานที่ร้านโดยไม่สวมหน้ากาก และในวันที่ 16 เริ่มมีอาการป่วย และทราบข่าวว่าเพื่อนติดเชื้อจึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ตในวันที่19 ธ.ค. กระทั่งพบว่าติดเชื้อ

ส่วนการสอบสวนโรคพบผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงสูง 28 ราย มีอาการป่วย 3 ราย ส่งรักษาในโรงพยาบาล มีผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่ำ จำนวน 10 ราย ทุกรายอาการปกติ

ที่นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ชี้แจงไทม์ไลน์ของชายอายุ 57 ปี อาชีพพ่อค้าอาหารทะเล ชาว อ.พิมาย ที่ยืนยันว่าติดเชื้อ หลังจากเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ่อค้าอาหารทะเลรายนี้มีอาการไข้และมีน้ำมูล จึงเดินทางมาตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพิมาย ก่อนถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ส่วนประวัติการเดินทางของชายอายุ 57 ปี พ่อค้าอาหารทะเล ที่ไปรับซื้อมาจากตลาดมหาชัยมาโดยตลอดแทบทุกวัน หรือ 1-2 วันครั้ง โดยเดินทางใกล้ชิดกับลูกชาย 1 คน และคนงานลูกจ้างอีก 7 คน ครั้งล่าสุดคือ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก่อนนำอาหารทะเลทั้งกุ้งสดและปลาหมึก ไปเปิดแผงขายตามตลาดนัดหลายแห่ง ทั้งในเขต อ.ชุมพวง อ.ห้วยแถลง อ.จักราช จ.นครราชสีมา รวมถึงเขต อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

ที่พระนครศรีอยุธยา นพ.พีระ อารียรัตน์ นายสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อ 2 ราย เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 33 ปี (มีอาการ) และ อายุ 29 ปี (ไม่มีอาการ) อาศัยบ้านเดียวกัน มีอาชีพ เป็นแม่ค้าขายอาหารทะเล อยู่ที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี อำเภอภาชี และเดินทางไปซื้อของมาขายจากตลาดทะเลไทยจังหวัดสมุทรสาคร นำมาจำหน่ายที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี โดยมีการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม กลุ่มร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงจำนวน 2 ร้าน ค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม โดยประชาชนที่มาซื้ออาหารทะเล ที่ตลาดหน้าสถานีรถไฟภาชี ในระหว่างวันที่ 8-16 ธันวาคม 2563 ซึ่งพบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 5 ราย

ส่วนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงข่าวพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากกรณีที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรายหนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ในหน่วยเลือกตั้ง หมู่ที่ 5 บ้านปู่เจ้า ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ในช่วงเช้าของวันที่ 20 ธันวาคม หลังจากที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอหนองไผ่ทราบข่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ จนทราบว่าบุคคลดังกล่าว เป็นชาย อายุ 64 ปี มีอาชีพเป็นคนรับจ้างขับรถให้กับนายจ้างไปซื้อของทะเลที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร เพื่อนำมาตระเวนจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้บุคคลทั้ง 2 กักตัวอยู่ที่บ้านของตนเอง เพื่อรอเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 และล่าสุด ผลการตรวจบุคคลทั้ง 2 ปรากฏว่า ผลเป็นบวกเพียงรายเดียว คือ ชายอายุ 64 ปี ส่วนนายจ้างไม่พบเชื้อ แต่ต้องกักตัว 14 วัน

และที่กำแพงเพชร นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 2 รายเชื่อมโยงกับตลาดแพปลา จ.สมุทรสาคร

โดยรายที่ 1 เพศชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี ต.กำแพงเพชร มีอาชีพขายอาหารทะเล โดยเดินทางไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ในลักษณะไป-กลับ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลขาณุวรลักษณบุรี ผลพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 6 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 3 ราย รอผลการตรวจ 3 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 3 ราย

รายที่ 2 เพศชาย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร มีอาชีพขับรถส่งอาหารทะเลตลาดแม่กลอง -ตลาดทะเลไทย เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลคลองขลุง ผลพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย ตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 2 ราย และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 3 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]