ฌาปนกิจ “น้องจูน” เหยื่อหนุ่มคลั่ง “เจ๊อ๋อ” ร่วมงาน

อุดรธานี 8 ธ.ค.-ครอบครัวเศร้า จัดพิธีฌาปนกิจ “น้องจูน” เหยื่อหนุ่มคลั่งแทงเสียชีวิต ด้านเจ๊อ๋อ 90 ล้าน ร่วมแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว หลังวิญญาณน้องไปหา ญาติเอาแป้งมาลูบมือเจ๊อ๋อ ขอมีโชคอย่างเจ๊อ๋อบ้าง


ช่วงบ่ายเมื่อวาน ที่ศาลาพุทธรักษา 1 วัดโพธิสมภรณ์ (อารามหลวง) เขตเทศบาลนครอุดรธานี นางวรรณลี ปัญญาใส อายุ 48 ปี หรือเจ๊อ๋อ สาวใหญ่ชาวอุดรดวงเฮงถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 จำนวน 90 ล้านบาท ได้เดินทางไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องจูน น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการทั่วไป มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 1 ในผู้เสียชีวิต ที่ถูกนายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี แทงเสียชีวิต ขณะจอดรถจักรยานยนต์ติดไฟแดง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา

เจ๊อ๋อ มอบเงิน 30,000 บาท เพื่อช่วยเหลือครอบครัวน้องจูน พร้อมกับมอบหนังสือให้ครอบครัวน้องจูนไว้อ่านคลายเครียด เจ๊อ๋อ เล่าวว่า เมื่อเย็นวานนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากเดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือโรงเรียนที่ถูกไฟไหม้ 50,000 บาท ให้สำนักงานเขตพื้นประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และรับมอบใบประกาศนียบัตรขอบคุณแล้ว จู่ๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาสัมผัส ทำให้ตนน้ำตาไหล และเห็นภาพเด็กผู้หญิง 2 คน ยืนร้องไห้อยู่ เด็กที่มีบาดแผลที่ลำคอ พูดว่า “หนูอยากเห็นแม่มานานแล้ว หนูมาขอส่วนบุญกับแม่หน่อย” ตนจึงบอกเด็กว่า เดี๋ยวแม่จะทำบุญไปให้ ตนจึงเดินทางมามอบเงินทำบุญกับครอบครัวน้องจูน


ด้านนางนันทนา แม่ของน้องจูน ได้ขอบคุณเจ๊อ๋อ ที่มาร่วมทำบุญให้กับน้องจูน ส่วนญาติๆ น้องจูน ก็มาขอจับมือถ่ายรูป และขอลายเซ็น พร้อมบอกว่า เห็นเจ๊อ๋อ แต่ในข่าว วันนี้เจอตัวจริง จึงจะขอโชคจากเจ๊อ๋อ โดยนำแป้งฝุ่นโรยที่หลังมือเจ๊อ๋อ เพื่อส่องหาเลข โดยเห็นเลข ตรงกับเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ของน้องจูน ทำให้บรรยากาศคลายความเศร้าโศกลงไปบ้าง ซึ่งแม่น้องจูนได้ บอกว่า น้องจูนรักรถจักรยานยนต์คันนี้มาก จะเปลี่ยนคันใหม่ให้ก็ไม่ยอม จึงนำรถมาบังสุกุลไปให้น้องจูนไปใช้บนสวรรค์

จากนั้นเมื่อเวลา 15.30 น. นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปประธานในพิธีฌาปนกิจศพน้องจูน บรรยากาศเป็นไปด้วยความความโศกเศร้า โดยเพื่อนๆเพื่อนได้ร่วมร้องเพลง “เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป” ให้น้องจูนฟังที่หน้าเมรุ เพื่อแสดงความรักและอาลัยต่อการจากไป โดยเพื่อนๆ ก็ทั้งร้องเพลงและร้องไห้ไปด้วย ส่วนแม่และญาติๆของน้องจูน ต่างร้องไห้ปานจะขาดใจ โดยเฉพาะวินาทีก่อนนำร่างน้องเข้าเตาเผา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีฌาปนกิจศพน้องจูน ได้รับความเมตตาจากพระราชสารโกศล (พระมหาวงศ์ไทย สุภวังโส) เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ธ) ให้ใช้สถานที่ในการประกอบพิธีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมอบผ้าไตร 1 ชุด เพื่อร่วมบำเพ็ญกุศล

ส่วนความคืบหน้าของคดี เมื่อวานนี้ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ทำการฝากขัง นายอิธิพล ผู้ต้องหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจนา , ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส , พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ” ทางวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับศาลจังหวัดอุดรธานี หลังดำเนินการฝากขังเสร็จ ก็ควบคุมตัวออกจากห้องคุมขัง สภ.เมืองอุดรธานี ไปพบจิตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ก่อนจะนำตัวส่งเรือนจำกลางอุดรธานี โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวพามายืนรอดูหน้าผู้ต้องหาที่หน้าห้องขัง อย่างไรก็ตาม ตามร่างกายของนายอิธิพล มีรอยสักหนุมาน และยันต์อักขระ เชื่อว่าของเข้าตัวในวันเสาร์ 5 ก่อนนำหมอธรรม มาทำพิธีถอดของ และจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอิธิพล อิ่มผึ่ง สารภาพว่าทำไปเพื่อระบายแค้นและแทงไปมั่วๆ ขณะที่ตำรวจยังไม่นำตัวไปทำแผนชี้จุด เกรงจะถูกประชาทัณฑ์ เพราะประชาชนยังโกรธแค้น


นายแสงมณี สังข์ทอง ลุงเขยพร้อมกับญาติอีก 2 คน เดินทางเข้าเยี่ยมนายอิธิพล โดยถือห่อข้าวเหนียว ลาบ เนื้อทอด น้ำดื่ม มาฝาก แต่ไม่ได้พบ เนื่องจากทางตำรวจเตรียมควบคุมตัวนายอิธิพล ไปส่งโรงพยาบาล บอกว่า รู้ข่าวครั้งแรกรู้สึกตกใจ เพราะนายอิธิพล ไม่ได้เป็นคนก้าวร้าว ไม่เสพยาบ้า ตอนเด็กๆ อยู่กับยาย พ่อเสียชีวิต ส่วนแม่ไปทำงานที่ จ.พิษณุโลก และต่อมาก็ไปทำงานที่ฟาร์มหมูกับลุงได้เงินเดือน 8,500 บาท และแอบหนีมาเที่ยว แล้วมาก่อเหตุ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุ สี่แยกไฟแดงถนนนเรศวรตัดกับถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นจุดเกิดเหตุจุดแรก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจาก มทบ.24 กอ.รมน.อุดรธานี และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่พบกับประชาชน และเจ้าของร้านค้า ที่อาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะได้คลายความวิตกกังวล จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทั่วไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย