เชียงใหม่ 6 ธ.ค.-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปรับรูปแบบประเพณีรับน้องขึ้นดอย ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ลดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมเหลือ 200 คน จากกว่า 10,000 คน นักศึกษาส่งตัวแทนคณะละ 2 คน
ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันนี้ ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และอาจารย์รวมถึงน้องๆ ตัวแทนนักศึกษาจากแต่ละคณะต่างๆ พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีม่วงซึ่งเป็นสีประจำของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และสวมใส่หน้ากากอนามัยมารวมตัวกันบริเวณศาลาอ่างแก้วเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมรับน้องขึ้นดอยประจำปีการศึกษา 2563 แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดพิธีรับน้องขึ้นดอยของลูกช้าง มช. ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อรับนักศึกษาใหม่ที่เดินทางเข้ามาเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อให้น้องนักศึกษาได้เดินขึ้นไปไหว้ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาที่เชิงดอยสุเทพก่อนที่จะมีขบวนเครื่องสักการะล้านนาเดินขึ้นไปบนดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อกราบเจ้าอาวาสวัดดอยสุเทพและเวียนเทียนเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับนักศึกษาทุกปีจะจัดกันในช่วงต้นปี
แต่ได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางมหาวิทยาลัยจึงได้เลื่อนกิจกรรมออกไปและมาจัดขึ้นในวันนี้ โดยจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมกิจกรรมโดยให้นักศึกษาส่งตัวแทนมาคณะละ 2 คน ร่วมบุคลากร อาจารย์ รวมทั้งหมด 200 คน จากที่ในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมนี้นับหมื่นคน จึงเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ โดยผู้ที่เข้ากิจกรรมในวันนี้จะต้องผ่านจุดคัดกรองป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จะต้องทำการตรวจวัดอุณหภูมิและลงทะเบียนไว้
จากนั้นทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และอาจารย์รวมถึงน้องๆตัวแทนนักศึกษาจากแต่ละคณะได้ไปร่วมกันถ่ายรูปหมู่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่แล้วขึ้นรถตู้ไปยังบริเวณลานครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาที่บริเวณเชิงดอยสุเทพเพื่อนำเครื่องสักการะล้านนาบูชาแด่ครูบาเจ้าศรีวิชัยแล้วทางอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้นำนักศึกษาและคณะอาจารย์ขึ้นรถเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารเพื่อตั้งขบวนนำเครื่องสักการะล้านนาเดินขึ้นไปบนดอยสุเทพราชวรวิหารและกราบสักการะเจ้าอาวาสวัดดอยสุเทพพร้อมกับเวียนเทียนเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับนักศึกษาทุกคนที่เข้าเริ่มต้นชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งในปีนี้ได้จัดกิจกรรมรับน้องขึ้นดอยแบบเรียบง่ายและรับน้องแบบ New Normal.-สำนักข่าวไทย