หนุ่มคลั่งไล่แทงคน ดับ 2 เจ็บ 4 ให้การวกวน อ้างเสพยา ไม่รู้ตัว

อุดรธานี 6 ธ.ค.-สอบปากคำหนุ่มคลั่งไล่แทงคนที่อุดรธานี เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 4 คน ให้การวกวน อ้างเสพยาบ้ามา 2 เม็ด ตอนก่อเหตุไม่รู้ตัว พร้อมขอโทษสังคม ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจนา


ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (6 ธ.ค.) บริเวณสี่แยกหลังเรือนจำจังหวัดอุดรธานี ถนนศรีชมชื่นตัดถนนนเรศวร เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นจังหวะที่นางสาวณัฐวดี โพธิ์พรม อายุ 17 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อนนางสาวอัญชนา บุญยิ่งยวน อายุ 16 ปี มาจอดติดไฟแดง ปรากฏว่ามีคนร้ายขี่รถมาประกบด้านขวา เอื้อมมือใช้มีดที่พกติดหน้ารถ จ้วงแทงคอคนซ้อนก่อน ทำให้ต้องวิ่งหนีไปหมดสติ จากนั้นได้จ้วงแทงคนขี่บาดเจ็บและหลบหนีไป ส่วนเพื่อนคนร้ายที่ซ้อนท้ายมาด้วยกัน ปรากฏว่าได้ลงจากรถและข้ามถนนไป

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้รุดเข้าปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บและรีบรับตัวนางสาวณัฐวดี คนซ้อนเพื่อกู้ชีพแต่ท้ายสุดเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี


หลังจากนั้นพบว่า ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเพียงลำพังและไปก่อเหตุหลายครั้ง ประกอบด้วยครั้งที่ 2 ที่บริเวณหน้าร้าน “เรื่องของปู” ริมถนนนเรศวร โดยแทงหญิงอายุ 45 ปีบาดเจ็บที่แก้ม ครั้งที่ 3 ก่อเหตุที่หน้ามัสยิดถนนศรีชมชื่น ด้วยการแทงหญิงอายุ 20 ปี บาดเจ็บที่ไหล่ซ้าย ครั้งที่ 4 ก่อเหตุหน้าโรงเรียนบ้านหมากแข้ง เป็นเด็กชาย อายุ 13 ปี บาดเจ็บในลักษณะเดียวกัน คือ พยายามแทงที่คอ ครั้งที่ 5 ได้ก่อเหตุที่หน้าร้าน “นิมิตแอร์” โดยคนร้ายขี่รถตามมาด้านหลัง และใช้มีดแทงคอนางสาวสชลดา หินคำ อายุ 22 ปี จนตกรถ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และครั้งที่ 6 ได้ขี่รถไปก่อเหตุที่หน้าทางเข้ามูลนิธิส่งเสริมธรรมอุดรธานี ถนนโพศรี เป็นหญิง อายุ 32 ปี ถูกแทงที่ไหล่ซ้ายบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุครั้งหมด 6 ครั้ง ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และกำลังนอกเครื่องแบบได้ระดมกำลังเข้าติดตามตัว และสามารถปิดล้อมคนร้ายอยู่หน้าร้านขายยา บริเวณถนนประจักษ์ศิลปาคม ใกล้วงเวียนเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลนครอุดรธานี โดยใช้อุปกรณ์เหล็กง่าม กระบอง และกรวยยาง ไล่ต้อนคนร้ายมาอยู่ที่หน้าร้านขายยาฯ เมื่อคนร้ายเผลอ ตำรวจได้กรูกันเข้าไปจับกุม จับกดลงกันพื้น ก่อนนำตัวขึ้นรถไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองอุดรธานี ทราบชื่อคือ นายอิธิพล อิ่มผึ่ง อายุ 31 ปี ชาวอำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี

ต่อมา พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาสอบปากคำนายอิธิพล มือมีดและเพื่อน ซึ่งนายอิธิพล ให้การวกไปวนมา อ้างว่าเคยเข้ารับการรักษาโรคประสาทที่ รพ.ปราจีนบุรี เมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่ง พล.ต.ต.พิษณุ ได้สั่งให้ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดี “ฆ่าผู้อื่นโดยเจนา” แม้จะอ้างว่าป่วยจิตเวชก็ตาม ซึ่งจะต้องนำตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจว่าเป็นคนวิกลจริตหรือไม่ และให้ไปเก็บหลักฐานภาพวงจรปิดตามจุดที่เกิดมาประกอบสำนวน พร้อมสั่งกำชับให้ตำรวจตรวจค้นอาวุธผู้เข้ามาเที่ยวงานประจำปีทุ่งศรีเมือง เพื่อป้องกันเหตุไม่เกิดซ้ำรอย


สอบสวนผู้ก่อเหตุพบว่ายังให้การวกวนอ้างว่า ทำงานในฟาร์มเลี้ยงหมูของลุงที่ตำบลนิคมสงเคราะห์ และไม่เคยฆ่าหมู เลี้ยงอย่างเดียว โดยยอมรับว่าเคยเสพยาบ้าแต่หยุดเสพมานาน จนวันนี้ก่อนมาเที่ยว ได้เสพยาบ้า 2 เม็ด ไม่รู้ว่าไปทำร้ายคนอื่นทำไม และขอโทษที่ทำลงไป

สำหรับผู้เสียชีวิต 2 ศพ ประกอบด้วย น.ส.ชลดา หินคำ อายุ 22 ปี และ น.ส.อัญชนา บุญยิ่งยวน อายุ 16 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ ประกอบด้วย น.ส.ณัฐวดี โพธิ์พรม อายุ 17 ปี น.ส.ปิยวรรณ กันยาเยี้ยม อายุ 20 ปี ด.ช.ธนรัฐ ศักดิ์คำด้วง อายุ 13 ปี น.ส.สิราสินี พรหมกูล อายุ 45 ปี น.ส.แว่นทิพย์ วงวิลัย อายุ 33 ปี และ รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม 1 คน คือ น.ส.อรวรรณ บุแสง อายุ 30 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย