ภาคใต้ 2 ธ.ค.- ภาคใต้เผชิญฝนตกหนัก ทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างหลายพื้นที่ ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง คลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงวันนี้เป็นวันที่ 2 ฝนยังตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำให้พื้นที่ของทุกอำเภอมีน้ำท่วมสูงขึ้น มวลน้ำจากภูเขาบรรทัดยังไหลหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มของอำเภอเมือง อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอเขาชัยสน และอำเภอปากพะยูน โดยเฉพาะพื้นที่ของอำเภอเมืองพัทลุง ซึ่งรองรับมวลน้ำจากอำเภอศรีนครินทร ฝายชลประทานนาท่อม เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง
ส่วนภาพรวมทั้งจังหวัดพัทลุงขณะนี้เส้นทางภายในหมู่บ้านยังคงถูกน้ำท่วม 11 อำเภอ 65 ตำบล 644 หมู่บ้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้สั่งปิดโรงเรียนออกไปอีก 1 วัน เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน ที่ต้องออกจากบ้านในขณะที่มีสภาพน้ำท่วม ประกอบกับโรงเรียนบางแห่งถูกน้ำท่วมสูง
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลาหลังจากฝนถล่มรอบสองมาตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขายวงกว้างหลายพื้นที่ โดยล่าสุดน้ำป่าจากเขาวังป่าได้ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่ ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำด่านแรก น้ำได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่หมู่ 2และหมู่ 10 บ้านเรือนที่อยู่ริมคลองและที่เป็นทางน้ำไหลผ่านถูกน้ำท่วมและหลายหลังจมอยู่ในน้ำ ถนนเส้นทางลัดจากบ้านกลางที่จะไปออกสนามบินหาดใหญ่ถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังท่วมโรงเรียนวัดม่วงค่อมจนต้องปิดเรียนชั่วคราว
ส่วนภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา รายงานว่ามีน้ำท่วมใน 10 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง, สิงหนคร, รัตภูมิ, ควนเนียง, หาดใหญ่, จะนะ, กระแสสินธุ์, ระโนด, สะเดา และ อ.คลองหอยโข่ง
ขณะที่พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาก็ถูกน้ำท่วมหนักเช่นกันจากมวลน้ำที่มาจากฝนตกและมวลน้ำที่ไหลมาจากที่อื่น ที่ได้รับผลกระทบหนักขณะนี้เช่นในพื้นที่ ต.คูขุด อ.สทิงพระ จ.สงขลา ทั้ง 9 หมู่บ้านที่อยู่ติดริมทะเลสาบสงขลา ถูกน้ำในทะเลสาบสงขลาเอ่อล้นเข้าท่วมทั้งถนนในหมู่บ้านและบ้านเรือนของชาวบ้าน บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้เรือเข้าออกตรัง
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่หมู่ 7 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังบ้านเรือนชาวบ้านรวม 11 ครัวเรือน สูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากถูกเพื่อนบ้านข้างเคียงถมดินปิดทับทางไหลของน้ำ จนไม่มีทางระบายและท่วมขังอยู่นานจนทรัพย์สินเสียหายเกือบทั้งหมด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
สำหรับระดับน้ำในเช้าวันนี้พบท่วมใน 2 อำเภอคือ อ.นาโยง และ อ.เมืองตรัง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นหลังฝนตกต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกัน ชาวบ้านต้องขอความร่วมมือรถทุกชนิดอย่าฝ่ากระแสน้ำ เพราะจะทำให้เกิดคลื่นและซัดเข้าบ้านเรือน ทำให้ทรัพย์สินที่ยกไว้ที่สูงพังเสียหายได้ ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 2 อำเภอรวม 9 ตำบลกว่า 1,200 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 3,500 คน และพืชผลทางการเกษตรเสียหายกว่า 3,000 ไร่
ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่าสุดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (2 ธ.ค.63) ฝนยังตกหนักหลายพื้นที่ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีส่งผลให้พื้นที่อำเภอไชยา อ.วิภาวดี อ.ดอนสัก มีน้ำป่าไหลหลากและที่บริเวณพื้นที่บ้านหน้าถ้ำ หมู่ที่ 13 ต.ท่าอุแท อ.กาญจนดิษฐ์ เป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดนครศรีธรรมราช มีมวลน้ำป่าจำนวนมากจากเทือกเขาในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกสี่ขีดไหลหลากลงคลองครามทำให้มีกระน้ำไหลเชี่ยวกรากท่วมสะพานข้ามคลองครามมีระดับสูงกว่า 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่อีกฝั่งของลำคลองไม่สามารถใช้เส้นทาง หากจะเดินทางออกจากพื้นที่จะต้องใช้เส้นทางอ้อมไปไกลกว่าเกือบ 30 กม.
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูลมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร จนถึงวันที่ 3 ธ.ค.2563.-สำนักข่าวไทย