เจ้าของแทบร้อง หลังเห็นสภาพรถที่ถูกร้านเครื่องเสียงขโมยไป

ลำปาง 15 พ.ย.-เจ้าของรถยนต์ที่ถูกเจ้าของร้านเครื่องเสียงขโมยไปหลังจากนำรถไปติดเครื่องเสียง แต่ละคนเห็นรถของตัวเองแทบร้องไห้ เพราะสภาพรถเสียหายหนัก ขณะที่ยังมีรถที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามกลับมาอีกประมาณ 17 คัน หลังจากผู้ต้องหารายนี้ขโมยรถที่หลอกให้มาติดเครื่องเสียงไปกว่า 20 คัน

วันนี้ที่บริเวณลานคลองถมเพ็ญทรัพย์ กลางเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ได้แจ้งให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์เก๋ง 3 คัน กระบะ 1 คัน รวม 4 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบรถที่ได้แจ้งความหายไว้ กรณีที่นำรถไปติดตั้งเครื่องเสียงกับนายศุภกฤต ผ่องภักดิ์ เจ้าของร้านเครื่องเสียงในจังหวัดลำปาง แต่ถูกหลอกให้โอนเงิน แต่สุดท้ายไม่ได้ทั้งเครื่องเสียงและรถหาย ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ กระทั่งศาลออกหมายจับและเจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้ที่จังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะนำฝากขังที่ศาลจังหวัดลำปางเมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยพบว่ารถถูกนายศุภกฤตนำไปจำนำและขายต่อในตลาดมืด รวมถึงปล่อยขายในเพจรถหลุดจำนำ ซึ่งมีรถหายไปกว่า 20 คัน


สำหรับรถที่พบในวันนี้ 4 คัน เจ้าของเป็นชาวจังหวัดแพร่ 2 คน สุโขทัย 1 คน และอำเภอเกาะคา ลำปาง 1 คน ซึ่งเจ้าของรถ 3 คันได้เดินทางไปตรวจสอบรถของตนเอง เมื่อเห็นรถแทบร้องให้ เพราะรถเปรอะเปื้อนคล้ายถูกขับออกจากป่าและทรุดโทรมมีตำหนิถูกชนและรอย บางส่วนถูกแงะออก กระจกในรถถูกเปลี่ยน สัญญาณกันขโมยถูกถอด มีการดัดแปลงสภาพรถเพื่อไม่ให้คนจำรถได้ และใช้กุญแจสำรองขับไปจอดที่ สภ.เมืองลำปาง ส่วนอีก 1 คัน เจ้าของจากจังหวัดสุโขทัยไม่ได้เดินทางมา ทางเจ้าหน้าที่จึงให้รถยก มายกรถไปไว้ที่ สภ.เมืองลำปาง และวันพรุ่งนี้จะได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบรถ หากตรงกับเอกสารที่เจ้าของรถแจ้งหายไว้ก็จะอนุญาตให้เจ้าของรถนำรถกลับไปได้

โดยรถที่พบในวันนี้ มีคนขับมาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่วันศุกร์ จอดปะปนไว้กับรถของชาวบ้านที่มักจะนำมาจอดไว้เพราะเป็นลานโล่งกลางเมืองและเป็นที่จัดตลาดนัดคลองถม จึงไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำงานนอกเวลา โดยการเป็นไรเดอร์ส่งอาหารและได้ขับขี่ส่งอาหารในละแวกดังกล่าว เห็นรถทั้ง 4 คันจอดเรียงกันโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเจ้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นรถผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว จึงประสานให้เจ้าของรถมาตรวจสอบ ทำให้ในขณะนี้ยังเหลือรถที่หายและกำลังติดตามหาอีกประมาณ 17 คัน


เมื่อวานนี้ ตำรวจสภ.เมืองลำปาง ได้นำตัวนายศุภกฤต ไปสอบปากคำ หลังศาลลำปางออกหมายจับในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 11 พ.ย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่จังหวัดชลบุรี และนำตัวกลับมาจังหวัดลำปาง โดยผู้ต้องหายังไม่ยอมปริปากบอกว่ารถของผู้เสียหายทั้งหมดที่กำลังตามหาร่วม 20 คันนำไปจำนำหรืออยู่ที่ไหน และพยายามขอประกันตัว แต่พนักงานสอบสวนได้นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดลำปาง พร้อมขอคัดค้านการประกันตัว โดยมีกลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน ได้เดินทางไปรอที่ศาลจังหวัดลำปางและลงชื่อเพื่อขอคัดค้านการประกันตัวด้วย โดยเกรงว่าหากผู้ต้องหาได้ประกันตัวอาจจะหลบหนีเนื่องจากมูลค่าความเสียหายมีจำนวนมากและมีพฤติการณ์หลบหนีมาก่อน

คดีนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายในหลายจังหวัดได้นำรถยนต์ ทั้งรถเก๋ง และกระบ หลากยี่ห้อไปติดตั้งเครื่องเสียง กับนายศุภกฤต ที่ได้โฆษณาจำหน่ายเครื่องเสียงในราคาโปรโมชั่นถูกกว่าท้องตลาด ผ่านทางเฟซบุ๊ก ชื่อ“ลัคกี้อินดี้ซาวด์” และ “ธวัชชัย คาร์ออดิโอ” โดยมีการโอนเงินค่าเครื่องเสียงให้ก่อน จากนั้นจึงนำรถส่งมอบให้นายศุภกฤต เพื่อนำติดตั้งเครื่องเสียง แต่เมื่อครบกำหนด นายศุภกฤต ไม่ได้นำรถส่งคืน ผู้เสียหายได้พยายามติดตามทวงถามและขอยกเลิกการติดตั้งเครื่องเสียง และขอให้นายศุภกฤต จ่ายเงินคืนพร้อมส่งมอบรถคืนมา แต่นายศุภกฤต ไม่คืนเงิน และไม่ยอมส่งมอบรถคืน พยายามบ่ายเบี่ยงและเลื่อนนัดส่งมอบรถคืนมาโดยตลอด จนกระทั่งผู้เสียหายพบว่ารถของตนเองถูกนำไปจำนำและมีประกาศขายในเพจรถหลุดจำนำและในตลาดมืดอีกหลายคัน ทำให้ตั้งกลุ่มผู้เสียหายเพื่อติดตามรถและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ตาม สภ.ต่างๆ ในข้อหาฉ้อโกง และยักยอกทรัพย์ พร้อมได้แจ้งความรถหาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]