นศ.กว่า 100 คน ถูกรุ่นพี่หลอกลงทุนเงินออมสูญ 4.5 ล้าน

ขอนแก่น 14 พ.ย. – นักศึกษารวบรวมรายชื่อผู้เสียหายถูกเพื่อนรุ่นพี่คนสนิทหลอกเชิดเงินลงทุนออมกินดอกเบี้ย กว่า 100 ราย เข้าแจ้งความ มูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 ล้านบาท วอนเร่งนำตัวคนผิดมาดำเนินคดี


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปยังสถานีตำรวจภูธรย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังมีผู้เสียหายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น จำนวน 3 คน รวมตัวเข้าแจ้งความ ขอให้นำตัวนายตี๋ หรือ แคป ชาว ต.เสี้ยว อ.เมืองเลย จ.เลย มาดำเนินคดี หลังก่อเหตุหลอกลวงประชาชนกว่า 100 ราย เข้าร่วมลงทุนออมเงินกินดอกเบี้ย ก่อนจะเชิดเงินไป โดยไม่ยอมคืนเงินต้นและไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายกระจายอยู่ทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4.5 ล้านบาท

นักศึกษาชั้นปีที่ 4 พร้อมเพื่อนอีก 2 คน รวบรวมหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นสลิปการโอนเงิน ข้อความพูดคุยระหว่างผู้เสียหายกับผู้ก่อเหตุ รายชื่อผู้เสียหายที่อยู่หลายจังหวัด พร้อมยอดเงินของผู้เสียหายแต่ละคน เข้าแจ้งความกับร้อยเวร สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพราะขณะนี้นายตี๋ หรือ แคป ยังไม่มีทีท่าว่าจะคืนเงินแชร์ทั้งต้นและดอกให้กับผู้เสียหายทั้งหมด หนำซ้ำยังถูกผู้ก่อเหตุยืมเงินอีก 5,000 บาท โดยให้เหตุผลว่า แชร์ล้ม ไม่มีเงินโอนให้กับสมาชิกในวงแชร์ โดยจะให้ดอกเบี้ย 500 บาท แต่ได้ปฏิเสธไป


ผู้เสียหายได้เผยกับผู้สื่อข่าวถึงการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ว่า ตนเองกับนายตี๋ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน รู้จักกัน เติบโตมาด้วยกัน สนิทกัน และเรียนหนังสือที่ จ.ขอนแก่น เหมือนกัน ในช่วงปี 2563 เห็นนายตี๋โพสต์เรทเงินออมในไอจีและเฟซบุ๊กบ่อยๆ ทั้งยังขอร้องให้มีการแชร์โพสต์ดังกล่าวด้วย โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายคนที่ร่วมออมกับนายตี๋ รับดอกเบี้ยจากเงินออมกันจำนวนมาก และนายตี๋ก็ชวนตนเองมาร่วมออม จึงเริ่มออมจำนวน 3,500 บาท เรทออมเป็นอาทิตย์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ครบ 7 วัน นายตี๋ก็จะโอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีให้ จำนวน 400 บาท ซึ่งก็รับดอกเบี้ยติดต่อกันมาประมาณ 2 อาทิตย์ นายตี๋ก็ชวนออมเพิ่มเป็นเรทเงินออมแบบ 10 วัน อีก 20,000 บาท จึงปฏิเสธไป แต่มีเพื่อนสนใจออมแทน จึงให้เพื่อนโอนเงินออม จำนวน 20,000 บาท เข้าบัญชีนายตี๋ จากนั้นครบ 10 วัน ก็ได้ดอกเบี้ย 6,000 บาท

หลังออมเรท 20,000 บาท รับดอกเบี้ย 6,000 บาท ได้เพียง 10 วันแรก เพื่อนก็ถูกนายตี๋ขอยืมเงิน 5,000 บาท โดยอ้างว่าแชร์ล้ม ไม่มีเงินโอนให้สมาชิก จึงขอยืมเงินเพื่อน เพื่อโอนไปให้สมาชิก โดยจะให้ดอกเบี้ยกับเพื่อนเป็นค่ายืมเงิน 500 บาท เพื่อนจึงให้ยืมไป หลังจากยืมเงินเพื่อนก็ติดต่อนายตี๋ยาก ส่วนตนเองดอกเบี้ยที่ออมเงิน 3,500 บาท ก็ไม่ได้อีกเลย จึงขอเงินคืน และนายตี๋มาตอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า แชร์ล้ม ยังหาเงินโอนให้ไม่ได้ แต่จะพยายามหามาคืนให้ จากนั้นก็หายหน้าไป ติดต่อทางใดก็ไม่ได้อีก จึงบอกให้แม่ทราบเรื่อง และให้แม่ไปทวงถามที่บ้านนายตี๋ จึงทราบจากญาติพี่น้องว่า ให้เรียกร้องเอากับนายตี๋เอง พ่อแม่ญาติพี่น้องไม่รับรู้ด้วย

จากนั้นจึงได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น กระทั่งมีคนเข้ามาทักและถามว่า คนที่โกงเงินใช่นายตี๋คนเดียวกันหรือไม่ ปรากฏว่าเป็นคนเดียวกัน จึงเข้าร่วมกลุ่มไลน์คนถูกโกง ซึ่งพบว่ามีสมาชิก 98 ราย และอยู่ในหลายจังหวัด มีคนถูกโกงตั้งแต่ 600 บาท ถึงจำนวน 900,000 บาท โดยทุกคนจะถูกชักชวนคล้ายๆ กัน คือ ร่วมออมเงินตามเรทต่างๆ แล้วรอรับดอกเบี้ยจากนายตี๋ แรกๆ ได้เงินดี แต่ระยะหลังไม่มีใครได้เงินอีก และถูกโกงไปขณะนี้รวมแล้ว 4.5 ล้านบาท จึงตัดสินใจรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งของตัวเองและเพื่อนอีก 2 คน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีการสืบสวนสอบสวน จับกุมตัวนายตี๋ ให้หาเงินมาคืนสมาชิกทุกคน ส่วนการดำเนินคดีนั้น ให้พนักงานสอบสวนพิจารณาตามความเหมาะสมของข้อกฎหมาย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากความเป็นเพื่อน พี่น้อง และความเชื่อใจ ไม่คิดว่าจะมาโกงกันได้


ผู้เสียหายยังได้ฝากถึงนายแคป ขอให้คืนเงินให้กับผู้เสียหายทั้งหมด เพราะเงินไม่ใช่จำนวนน้อยๆ และอยากให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ไม่กล้าแจ้งความ ออกมาแจ้งความกันทุกคน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่ให้นายแคปไปก่อเหตุหลอกลวงเงินจากใครได้อีก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]