ลูกสาวโวย! สมองบวมหมอให้กลับบ้านดับ

เลย 13 พ.ย.- ลูกสาวโวย! แม่ประสบอุบัติเหตุเข้ารักษาใน รพ.เลย สมองบวมแต่หมอให้กลับบ้าน สุดท้ายดับสลด


น.ส.อัญญ์ฎานันท์ ไพศูนย์ อายุ 36 ปี ร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า แม่ของตนคือนางหนูคิด ไพศูนย์ อายุ 54 ปี ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถยนต์ชนขณะขับรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ได้รับบาดเจ็บเลือดออกในสมอง เพราะศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเลยแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาเฝ้าดูอาการ จนกระทั่งถึงวันที่ 9 พ.ย.2563 แพทย์เจ้าของไข้ได้ให้ออกจากโรงพยาบาล กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ทั้งๆ ที่แม่ยังมีอาการปวดศีรษะและมึนงงอยู่ อีกทั้งญาติยังไม่อยากกลับบ้าน ขอให้แพทย์รอดูอาการอีกระยะก่อน แต่ทางแพทย์ยืนยันว่า อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว กลับไปพักฟื้นที่บ้านอีกประมาณ 1 เดือนก็หายเป็นปกติ หลังจากนั้นก็พาแม่กลับบ้าน เมื่อมาถึงได้ 10 นาที แม่ก็เกิดอาการช็อกหมดสติ ตนและญาติได้พากันส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเชียงคาน พยาบาลก็ช่วยกันปั๊มหัวใจ อาการยังไม่ดีขึ้น จึงรีบนำส่งต่อไปที่โรงพยาบาลเลยอีกครั้ง ก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด

ตอนนี้ตนและญาติทุกคนติดใจในสาเหตุการตาย จึงขอให้ รพ.เลย ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ผลการผ่าแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง สมองช้ำบวม การที่แม่เสียชีวิตถือเป็นความผิดพลาดของแพทย์ ไม่มีการตรวจซ้ำก่อนออกจาก รพ. ทั้งที่แม่ยังมีอาการปวดหัว เดินไม่ได้ ขออยู่ต่อ ซึ่งตามกำหนดเดิมที่แพทย์บอกว่าจะต้องอยู่ รพ.ไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย. จึงอยากให้แพทย์และผู้เกี่ยวข้องออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และขอให้ปรับปรุงการทำงานให้ดีกว่านี้ ขอให้แม่ตนเป็นศพสุดท้ายที่เกิดจากความสะเพร่าของแพทย์


ด้านนายแพทย์บัญชา ผลานุวงษ์ ผอ.โรงพยาบาลเลย เปิดเผยชี้แจงว่า หลังจาก รพ.รับนางหนูคิดเข้ามารักษา มีการทำซีทีสแกนพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง แพทย์เจ้าของไข้ ได้ติดต่อประสานงานสอบถามแนวทางการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ที่แนะนำให้รักษาอยู่ที่ รพ.เลยโดยมีการติดตามและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด กำหนดไว้ 6 วัน ซึ่งก่อนอนุญาตให้คนไข้กลับบ้าน แพทย์ก็ได้เข้าไปตรวจดูอาการ คนไข้มีการตอบรับที่ดี มีการพยักหน้า และพูดคำว่าขอกลับบ้าน แต่ทางญาติอาจมีการเข้าใจผิดในการสื่อสาร โดยทางแพทย์ก็ได้แนะนำข้อปฏิบัติหลังจากออกจากโรงพยาบาลให้แก่ตัวคนไข้และญาติทราบ หากพบอาการผิดปกติก็ให้มาตรวจซ้ำ ซึ่งคนไข้ได้บอกแพทย์ว่ากลืนน้ำและอาหารไม่ได้ เมื่อไปถึงบ้าน ทราบว่าญาติให้นำนมถั่วเหลืองมาให้คนไข้หรือนางหนูคิดดื่ม แล้วเกิดอาการสำลัก กลายเป็นเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีกแล้วก็หมดสติไป ซึ่งต้องไปตรวจสอบอีกว่า สมองเสียทำให้สำลัก หรือนมถั่วเหลืองทำให้สำลักแล้วสมองเสียภายหลัง อย่างไรก็ตาม ต้องรอข้อมูลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดความกระจ่าง

อย่างไรก็ตาม ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผอ.รพ.เลยยืนยัน จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีความผิด หรือบกพร่องจริงก็ต้องลงโทษตามระเบียบกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ