นนทบุรี 8 พ.ย.-ครอบครัวพลทหารที่ผูกคอตายปริศนาในห้องน้ำค่ายทหารที่ร้อยเอ็ด เข้าพบทนายดังเพื่อหารือถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) เตรียมเข้าพบตำรวจกองปราบให้ช่วยทำคดี แม่เผยผู้บังคับบัญชาตอบ 2 ครั้งไม่ตรงกัน
จากกรณีพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ อายุ 22 ปี สังกัด มณทลทหารบกที่ 27 จังหวัดร้อยเอ็ด เสียชีวิตปริศนาโดยมีเชือกไนล่อนสีขาวผูกคอ ภายในห้องน้ำในค่าย มทบ.27 เหตุเกิดวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางหนูไกล บุญวิเศษ 44 ปี มารดาของพลทหารพิชวัฒน์ พาครอบครัวเดินทางเข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หารือแนวทางดำเนินคดี

นางหนูไกล กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งว่าลูกเสียชีวิต ทางครอบครัวขอไปดูศพ แต่ถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ได้มาเห็นสภาพศพจากภาพในโลกออนไลน์ พบว่ามีรอยเขียวช้ำ มีรอยเชือกรัดคอเกือบขาด ขาจุ่มอยู่ในอ่างน้ำ ยอมรับว่าลูกชายหนีออกมาจากค่ายทหารจริง เพราะอยากออกมาลอยกระทงกับแฟน ลูกชายเคยโทรมาบอกว่า ถูกครูฝึกซ้อมบ่อย นำพริกและเกลือมาทาหลัง เหยียบหัว ตัดผม และโดนตบ นางหนูไกลเคยถามครูฝึกว่า ทำไมต้องทำเกินขนาดนี้ ครูฝึกยอมรับที่ตบเพราะดื้อ ไม่คิดว่าลูกจะมาเสียชีวิตแบบนี้ จึงเดินทางมาพบทนายเพื่อขอความเป็นธรรม สงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ เคยถามไปที่ผู้บังคับบัญชา แต่ถูกตัดสายทิ้ง เมื่อได้คุยกัน จึงถามว่าเชือกไปอยู่ในห้องน้ำได้ยังไง ทางผู้บังคับบัญชาตอบ 2 ครั้งไม่ตรงกัน นอกจากนี้ ไม่มีการฉีดยารักษาสภาพศพ คิดว่าอยากให้ศพเน่าเร็วขึ้นหรือไม่
เบื้องต้น ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้ พรุ่งนี้ (9 พ.ย.) จะพาครอบครัวของผู้ตายไปที่กองบังคับกองปราบปรามให้ทำคดี และจะประสานขอภาพกล้องวงจรปิดทุกจุดในค่ายต่อไป
ก่อนหน้านี้ กองทัพบกชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวต้นสังกัดได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชันสูตรและดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะร่วมกับทางญาติรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุจูงใจของการเสียชีวิตให้ได้ทราบความจริงและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทั้งนี้นโยบายของกองทัพบกจะให้การดูแลและตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์ต่อกำลังพลผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด.-สำนักข่าวไทย