เร่งชันสูตรพลทหารผูกคอตายในห้องขัง ญาติติดใจสาเหตุ

ร้อยเอ็ด 7 พ.ย.-เจ้าหน้าที่เร่งส่งศพชันสูตรพลทหารผูกคอเสียชีวิตในห้องขังค่ายทหาร จ.ร้อยเอ็ด หลังญาติยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ด้าน มทบ.27 เผยเสียชีวิตเพราะขาดอากาศ ไม่มีแผลถูกทำร้าย


เมื่อวานนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่ามีพลทหารเสียชีวิตในค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด หลังหนีค่ายออกมาแล้วถูกจับกลับไป เช้าวันรุ่งขึ้นพบเป็นศพแขวนคอตาย ผู้เป็นพ่อคาใจลูกตายเพราะอะไรกันแน่

สำนักข่าวไทย ตรวจสอบเรื่องนี้พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ที่กองรักษาการณ์ มณฑลทหารบกที่ 27 ค่ายประเสริฐสงคราม อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ผู้เสียชีวิต คือ พลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ อายุ 22 ปี โดยตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด พร้อมด้วยแพทย์เวร เข้าตรวจสอบสภาพศพ ลักษณะยืนเสียชีวิตในอ่างน้ำ ในห้องขังของค่ายทหาร ผิวเหลือง เยื่อบุตาซีด เล็บมือเขียว พบรอยกดรัดบริเวณลำคอ เหนือกล่องเสียงพาดไปหลังหู 2 ข้าง ไม่พบบาดแผลประทุษกรรม แขนขาไม่ผิดรูป เบื้องต้นสาเหตุการเสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจจากรอยกดรัดบริเวณลำคอ ไม่พบบาดแผลจากการประทุษกรรมแต่อย่างใด คาดผู้ตายใช้เชือกผูกกับลูกกรงด้านบนและมัดคอตัวเองทิ้งลงมาในอ่างน้ำ ทำให้เสียชีวิต


วันนี้ (7 พ.ย.) มีคำชี้แจงจาก พลตรีธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 ว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ญาติได้แจ้งให้หน่วยไปรับตัวพลทหารพิชวัฒน์ ที่หนีค่าย 2 ครั้ง เพื่อนำตัวมาทึ่หน่วยโดยญาติมาส่งด้วย (เดินทางมาถึงค่ายเมื่อเวลา 21.00 น.) หน่วยจึงคุมตัวไว้ที่กองรักษาการณ์ร่วมกับผู้ต้องโทษอีก 1 ราย คือ ทหารชั้นประทวน สังกัด รพ. ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ

ต่อมาวันที่ 6 พ.ย. 63 เวลาประมาณ 11.50 น. พลทหารพิชวัฒน์ ได้เข้าห้องน้ำในห้องขัง เมื่อถึงเวลารับประทานอาหาร 12.00 น. พลทหารพิชวัฒน์ ยังไม่ออกจากห้องน้ำจึงเรียกพลทหารพิชวัฒน์ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงไขกุญแจห้องน้ำ เข้าไปดูจึงพบว่าผูกคอเสียชีวิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนส่งศพไปไว้ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และวันนี้ได้ส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น พร้อมอำนวยความสะดวก ดูแลสิทธิประโยชน์ และการจัดงานฌาปนกิจศพต่อไป

นอกจากนี้ มณฑลหารบกที่ 27 ได้เปิดไทม์ไลน์ของพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ ตั้งแต่มารายงานตัวเข้ารับการฝึก กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวานนี้ พบว่ามารายงานตัว ตั้งแต่ 4 พ.ค.62 ผ่านไป 10 วัน เกิดอาการป่วย เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และกลับไปอยู่บ้าน ต่อมา 7 มิ.ย.62 จนท.รพ.ค่ายฯ ไปพบที่บ้านและนำสิ่งของเยี่ยมบ้าน หลังจากนั้นกลับมาฝึก และจบการฝึก เมื่อ 9 ก.ค.62 ลาเยี่ยมบ้าน 10 วัน และกลับเข้าหน่วยอีกครั้ง 19 ก.ค.62


พบประวัติเคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ทั้งเสพและค้า หลังกลับมาฝึกก็ขอไปรักษาตัวที่บ้าน เนื่องจากเป็นโรคติดต่อ พออาการดีขึ้นก็กลับเข้าหน่วย ซึ่งทางกองร้อยได้จัดผลัดพัก จำนวน 4 ผลัด และเมื่อปล่อยพักก็จะขาดทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องตามทุกครั้ง และเมื่อกลับเข้าหน่วย ก็พบว่าพลทหารพิชวัฒน์ ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกครั้ง

ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 ต.ค.63 ผู้ปกครองได้แจ้งมายังหน่วยให้ไปรับตัวพลทหารพิชวัฒน์ที่ห้องพัก ต่อมาวันที่ 28 ต.ค. ได้หลบหนีจากกรมกอง ก่อนถูกนำตัวกลับมาที่หน่วยในวันที่ 5 พ.ย.63 พร้อมกับแฟนสาว กระทั่งวันที่ 6 พ.ย. พบว่าเสียชีวิต

วันนี้ (7 พ.ย.) พ่อ พี่ชาย ของพลทหารพิชวัฒน์ ที่เสียชีวิต และญาติๆ รวมกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อขอดูหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการตายของลูกชาย พร้อมขอให้ลงบันทึกการขอย้ายศพลูกชาย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตรวจและผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นว่าไม่เชื่อใจ และขอย้ายไปทำการผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช ที่กรุงเทพฯ โดยมีญาติ ร่วมเดินทางไปด้วย

นายอุเทน เวียงนนท์ อายุ 47 ปี ผู้เป็นพ่อ บอกว่าติดใจสาเหตุการตายของลูกชาย โดยเฉพาะเชือกที่บอกว่าใช้ผูกคอตาย ที่ไม่เชื่อว่าลูกชายจะผูกคอตาย เพราะเป็นคนร่าเริง ไม่เคยมีปัญหา เงินทองก็ไม่เคยติดขัด อยากได้เงินก็โอนเงินมาให้ตลอด ส่วนกรณีที่ลูกชายติดยานั้น ไม่มั่นใจและไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน และที่อยากให้มีการสอบสวนที่สุดคือกรณีที่ลูกชายมักบอกเสมอว่ามีนายทหารคนหนึ่ง ที่เป็น ผบ.กองร้อย ชอบบังคับทำโทษลูกชายมาโดยตลอด จนทนไม่ไหว เป็นเหตุให้หนีออกจากค่ายบ่อยๆ เชื่อว่าลูกชายไม่โกหก เพราะเล่าให้ใครต่อใครฟังก็เล่าเช่นเดิม

ด้านนายปิยะพงษ์ เวียงนนท์ พี่ชาย เล่าว่า หลังจากตนเองเดินทางมาถึง พร้อมกับพ่อ ปรากฏว่าไม่เห็นอะไรเลย เพราะทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจขนกันไปหมดแล้ว ทั้งที่ตนเองบอกว่าขอให้รอก่อน อยากดูแม้กระทั่งเชือกที่น้องชายใช้ผูกคอตาย แต่ก็ไม่ได้เห็นอะไรเลย วันนี้จึงมาติดตามความคืบหน้าที่พนักงานสอบสวน เพราะอยากได้รับความเป็นธรรม และอยากทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าน้องชายตายเพราะสาเหตุอะไร โดยเชื่อว่าน้องชายไม่ได้ผูกคอตายอย่างแน่นอน เพราะไม่มีปัญหาในครอบครัว ไม่มีปัญหาการเงิน เมื่อน้องชายโทรหา ทั้งพ่อและตนเองก็โอนเงินให้ตลอด

ขณะที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ โพสต์เฟซบุ๊ก อีกว่าญาติขอเปลี่ยนที่ชันสูตรศพจากเดิมโรงพยาบาลตำรวจ เป็นสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สังกัดกระทรวงยุติธรรม และยังระบุอีกว่าขณะนี้เสียชีวิตเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว และล่าสุด มีการโพสต์แจ้งเวลาว่าญาติจะนำศพ ของพลทหารพลทหารพิชวัฒน์ เวียงนนท์ มาถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เพื่อขอให้ผ่าชันสูตรพลิกศพครั้งที่ 1 ช่วงเวลา 21.00-22.00 น. วันนี้ เพราะเชื่อว่าหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรมจะทำความจริงให้ปรากฏได้ พร้อมระบุอีกด้วยว่าครอบครัววอนนายทหารที่เกี่ยวข้องอย่ากดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”