สุพรรณบุรี 6 พ.ย. – เรื่องราวของหนุ่มพิการตาบอดสู้ชีวิต หารายได้เลี้ยงปากท้องด้วยอาชีพนวดแผนไทย หลังตกงานจากสถานการณ์โควิด-19 ตัดสินใจกลับบ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี เดินหน้าหางานทำ โชคดีร้านนวดใน อ.เมืองสุพรรณบุรี ให้โอกาสรับเข้าทำงาน ด้วยฝีมือการนวด มีลูกค้าประจำและลูกค้าที่ทราบข่าวต่างพากันมาใช้บริการ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านนวดแผนไทย ชื่อว่าเซนธาราสปา ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านนวดตัว นวดสปา นวดอโรมา นวดฝ่าเท้า นวดประคบแผนไทย
จากการสอบถาม น.ส.อรอุมา วีระกูล อายุ 40 ปี ผู้บริหารร้านนวดแผนไทย เปิดเผยว่า ทางร้านเปิดให้บริการมา 4 ปี มีพนักงาน 9 คน ช่วงหลังจากสถานการณ์โควิด-19 มีคนโทรเข้ามาขอสมัครงานที่ร้าน บอกว่าตัวเองชื่อนายกัมพล รุ่งเสรีกุล อายุ 29 ปี ตกงานมาจาก กทม. จึงกลับมาหางานทำที่บ้านเกิดเพื่อมาอยู่กับครอบครัว และบอกว่าจบหลักสูตรการนวดมาจากสถาบันแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ตนจึงบอกไปว่าทางร้านไม่ได้เปิดรับสมัครพนักงานที่เป็นผู้ชาย จึงปฏิเสธไป เขาจึงถอนหายใจแรงๆ ใส่ทางโทรศัพท์ ตอนแรกก็เกิดความงุนงง จึงสอบถามอีกครั้งว่ามีอะไรหรือเปล่า เขาจึงบอกว่าเขาเป็นผู้พิการทางสายตาและหางานยากมาก ไม่มีใครรับเข้าทำงานเลย เขาเป็นพนักงานนวดอยู่ที่ กทม. แต่เนื่องจากเกิดโรคระบาดโควิด- 19 ทำให้ทางร้านที่ กทม. ไม่มีลูกค้าและปิดตัวลง พอทราบเรื่องราวทางร้านเลยแจ้งไปว่าเดี๋ยวติดต่อกลับไป จึงกลับมาปรึกษากับครอบครัวและตัดสินใจโทรกลับไปให้มาทำงาน เพราะคิดว่าถ้าเราไม่รับเขาเข้าทำงานเขาจะอยู่อย่างไร ไม่มีอาชีพ ปิดกั้นคนพิการ จึงให้เขามาทำงาน โดยผลตอบรับดีมาก ลูกค้าประจำและลูกค้าที่ทราบข่าวต่างพากันมาใช้บริการ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่านวดดีมาก
ด้านนายกัมพล พนักงานนวดแผนไทย ผู้พิการทางสายตา เปิดเผยว่า ตนเองพิการทางสายตามาแต่กำเนิด เป็นจอประสาทตาเสื่อม แรกๆ พอมองเห็นบ้าง จากนั้นค่อยๆ มองไม่เห็นอีกเลย ที่ทำอาชีพหมอนวดแผนไทยนี้เพราะว่าเป็นอาชีพที่พึ่งพาคนอื่นน้อยที่สุด ไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นและครอบครัว ตนเองจบหลักสูตรการนวดมาหลายอย่าง เช่น นวดด้วยน้ำมันหอมระเหย นวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ นวดไทยเพื่อสุขภาพ โดยใช้เวลาเรียนแต่ละหลักสูตร 150 ชั่วโมง ถึงจะได้รับใบประกาศนียบัตร เรียนจบมาประมาณ 4 ปี แต่ก่อนเคยทำงานที่ กทม. แต่เนื่องจากเกิดโรคระบาดโควิด- 19 ทำให้ร้านที่ กทม. ไม่มีลูกค้าและปิดตัว ดีใจที่ร้านเซนธารา จ.สุพรรณบุรี รับตนเข้าทำงาน และได้อยู่ใกล้ครอบครัว ผลตอบรับก็ดี มีผู้มาใช้บริการ บางคนก็พูดให้กำลังใจ ให้สินน้ำใจบ้าง ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้คนพิการอย่างเราได้มีโอกาสยืนอยู่ในสังคม .-สำนักข่าวไทย