บุรีรัมย์ 5 พ.ย.- ผู้ชายที่ก่อเหตุตบตีเมียแย่งลูกริมถนนที่บุรีรัมย์ พร้อมโชว์ปืนขู่ นศ.รด.ที่จะไปช่วยฝ่ายหญิง เข้าพบ ตร.แล้ว ถูกแจ้ง 2 ข้อหายันไม่มีปืน แค่เข็มขัดหลุดออก
ความคืบหน้ากรณีที่กลุ่ม นร.ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด. บันทึกคลิปวิดีโอ ขณะที่มีชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นสามีภรรยากัน จอดรถจักรยานยนต์ริมถนนแล้วฝ่ายชายได้ลงมือตบตีกระชากฝ่ายหญิง ทั้งพยายามยื้อแย่งลูกน้อยวัยประมาณ 3-4 ขวบจนเด็กส่งเสียงร้องไห้ตลอดเวลา แต่พอนักศึกษาวิชาทหารจะเข้าไปช่วย ก็เห็นฝ่ายชายโชว์ปืนลักษณะขู่ ห้ามเข้าไปยุ่ง ก่อนจะบังคับฝ่ายหญิงและเด็กขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไป จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ตรวจสอบ เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสายโชคชัย-เดชอุดม ตรงข้ามกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 215 อ.นางรอง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ ฝ่ายชายทราบชื่อนายสุพิชัย แอมรัมย์ หรือแอม อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป พร้อมด้วย น.ส.ชมพูนุช แก้วปรือ หรือ ยุ้ย อายุ 30 ปี สองสามีภรรยาที่ปรากฏในคลิปได้เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.นางรอง แล้วโดยนายสุพิชัย ยอมรับว่า วันเกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา เพราะเขาอยากกลับบ้านตัวเอง เพราะบ้านที่อยู่ตอนนี้น้ำท่วมแต่ภรรยาไม่อยากไป จึงทะเลาะกันตลอดทาง พอจอดรถภรรยาก็พยายามจะอุ้มลูกชายวัย 3 ขวบแยกไป ตนเกิดการยื้อแย่งลูกกัน ยันไม่ได้ตบตีภรรยาแค่ผลักภรรยาล้มตอนที่ยื้อแย่งลูกกันเท่านั้น และก็ไม่มีบาดเจ็บหรือมีบาดแผลอะไร ยอมรับว่าทำไปเพราะความโมโหและใจร้อน ซึ่งขณะที่กำลังทะเลาะกันก็เห็นนักศึกษาวิชาทหาร หรือ รด.ตะโกนบอกให้หยุด แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร และยืนยันว่าไม่ได้มีอาวุธปืนที่ รด.เห็นอาจจะเป็นเข็มขัดหลุดออกจากเอวกางเกง ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นปืน
ฝ่ายชายยังบอกด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เกิดจากความใจร้อนของทั้งสองฝ่าย ก็จะพยายามปรับปรุงและใจเย็นให้มากกว่านี้ ก็ขอโทษน้องๆ รด. ที่ทำให้ตกใจ และขอโทษสังคม ที่ทะเลาะกันต่อหน้าเด็กในที่สาธารณะจนเป็นภาพความรุนแรง
ขณะที่ภรรยา ยืนยันว่า แค่เรื่องเข้าใจผิด และตนเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ก็ไม่ได้โกรธหรือติดใจเอาเรื่องสามี และอยากฝากถึงคู่รักอื่นๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างมีอะไรให้พูดคุยกันดีๆ อย่าใจร้อน ส่วนลูกชายตอนนี้ก็เอาไปให้แม่ยายดูแลแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผู้กำกับการ สภ.นางรอง ระบุว่าจากการสอบถามทั้งคู่ก็บอกว่าเรื่องของปืนต้องไปตรวจค้นบ้านอีกครั้งที่บ้านว่ามีอาวุธปืนหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฝ่ายชาย 2 ข้อหา “ทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ และเสพสารเสพติด”.-สำนักข่าวไทย