ฉะเชิงเทราประกาศจุดอาคารพาณิชย์ทรุดตัวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ

ฉะเชิงเทรา 3 พ.ย. – เทศบาลตำบลท่าข้ามทำหนังสือให้ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติจากเหตุอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ทรุดตัว ด้านสำนักงานโยธาธิการ จ.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบพบใช้อาคารผิดประเภทและต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต


จุดเกิดเหตุอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นแล้วมีการต่อเติมเป็น 3 ชั้น ในตลาดบางแสม ตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบอาคารมีการทรุดตัวลงเพิ่มเติม แม่ค้าขายของในตลาดเผยว่า เมื่อวานขณะยืนขายของอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุได้ยินเสียงลั่นดังจากตัวอาคารดังอย่างต่อเนื่อง จนหลายคนต้องวิ่งออกมาดู แล้วคนที่อยู่ในอาคารต้องขนของออกมาบางส่วน ทำให้ไม่กล้าขายของ เพราะกลัวอาคารถล่มใส่

ส่วนทางเทศบาลตำบลท่าข้ามได้จัดพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลท่าข้ามเป็นจุดให้ประชาชนที่ไม่ที่พักเป็นที่พักเบื้องต้น แต่ส่วนใหญ่ไปพักกับญาติ ซึ่งพบว่าตอนนี้อาคารความยาว 25 คูหา ทรุดตัวเพิ่มเติมอีกหลายหลัง


ล่าสุดนางสมจิตร์ พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม พร้อมผู้อำนวยการกองช่างและวิศวกร เจ้าหน้าที่สำนักโยธาธิการจังหวัด และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุสร้างขึ้นเมื่อปี 2526 โดย 3 คูหา ฝั่งขวามีการทุบตึกออกไปบางส่วน ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนที่เหลือพบการทรุดตัวของคานด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง มีรอยปูนแตก พื้นแตกตลอดแนว โดยจุดเกิดเหตุห้องที่เกิดร้อยร้าวมากสุด เจ้าของเพิ่งซื้ออาคารดังกล่าวมาในปี 2559 โดยมีการต่อเติมเป็น 3 ชั้น แล้วมีการให้คนเช่าทำร้าน ช่วงหลังมีเสียงลั่นของตัวอาคารถี่ขึ้น จึงนำช่างมาดู ก่อนจะนำเหล็กไอบีมมาเสริมคานตรงกลาง คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว

สุดท้ายคนที่เช่าอยู่ก็มาบอกว่าพื้นเกิดการทรุดตัวอย่างน่ากลัวในวันนี้ และอาคารเริ่มเอียง สำหรับในตัวอาคารมีการเก็บข้าวสาร ถังแก๊สจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเพิ่มน้ำหนักทำให้ตัวอาคารทรุด หลังจากมีการประเมินพบว่าข้าวสารน้ำหนักประมาณ 1 ตัน ชั้นล่างนั้น สร้างน้ำหนักกดคาน เร่งการทรุดตัว จึงต้องรีบช่วยกันขนย้ายข้าวสารออกจาตัวอาคารพร้อมทรัพย์สิน ระหว่างที่ให้เข้าไปเก็บทรัพย์สินก็เกิดเสียงลั่นหลายครั้ง ต้องสั่งหยุดการเข้าไปในตัวอาคารเพื่อความปลอดภัย

นายสมชาย จรูญวิรุฬห์ หัวหน้ากลุ่มวิชาการโยธา สำนักโยธาธิการจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารอายุมากกว่า 30 ปี มีการดัดแปลงใช้อาคารผิดประเภท เพิ่มน้ำหนักเข้าไปในตัวอาคาร ทำให้คานที่อยู่ด้านล่างนั้นรับน้ำหนักไม่ได้ และมีการต่อเติมชั้น 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งต้องให้ทางเทศบาลตำบลท่าข้ามประสานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างทั้งหมดว่าจะแก้ไขได้หรือไม่ หรือจะต้องทุบทิ้งเพื่อหยุดการทุรดตัว


ทางด้านนายพสธร พันธุ์สุวรรณ กำนันตำบลท่าข้าม ได้ประสานให้ทางเทศบาลตำบลท่าข้ามทำหนังสือให้ทางจังหวัดประกาศพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเร่งด่วน เพื่อป้องกันการสูญเสีย และห้ามไม่ให้คนเข้าไปในตัวอาคาร ส่วนการต่อเติม หากผิดก็ต้องทำตามระเบียบ ต้องให้รื้อถอนภายใน 7 วัน หากเข้าไปรื้อถอนไม่ได้ก็ต้องทำการทุบอาคารทิ้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน