บุรีรัมย์ 21 ต.ค.- หลายหน่วยงานรุดช่วยหนุ่มกรีดยางถูกฟ้องล้มละลายเป็นหนี้ 97 ล้านบาท คาดถูกนำเอกสารไปใช้
ผอ.บังคับคดีบุรีรัมย์พร้อมผู้แทนหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ช่วยเหลือหนุ่มรับจ้างกรีดยางมีชื่อโผล่เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จนถูกฟ้องล้มละลายเป็นหนี้กว่า 97 ล้านบาท เบื้องต้นได้บันทึกคำให้การส่งไปศาลล้มละลายกลางยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทที่ถูกฟ้อง คาดอาจทำเอกสารหายหรือมีมิจฉาชีพนำไปใช้ พร้อมฝากผู้นำหมู่บ้านเตือนประชาชนระมัดระวังการใช้เอกสารส่วนตัว
ความคืบหน้ากรณีที่นายวิชิตร์ มนปราณีต อายุ 43 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ตัดอ้อยมีรายได้วันละ 300-400 บาท ทั้งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนจากรัฐช่วยค่าครองชีพ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังจู่ๆ มีหมายจากศาลล้มละลายกลางมาส่งถึงบ้าน โดยในหมายศาลดังกล่าวระบุว่า กรมสรรพากรเป็นโจทก์ฟ้องนายวิชิตร์ มนปราณีต ในฐานะเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทซื้อขาย เช่าซื้อ ขายฝากที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่น มีทุนจดทะเบียนถึง 200 ล้านบาท โดยศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้เด็ดขาด เนื่องจากบริษัทมีหนี้ค้างชำระรวมกว่า 97 ล้านบาท นายวิชิตร์ ในฐานะผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ซึ่งเป็นจำเลย จึงต้องไปให้การที่กรมบังคับคดีภายใน 7 วัน มิฉะนั้นอาจมีโทษทางอาญา ล่าสุดนางบุญญาภา เสนามนตรี ผอ.บังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยผู้แทนสรรพากรพื้นที่ ผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ปลัดอำเภอและกำนันตำบลแคนดง ลงพื้นที่ไปที่บ้านนายวิชิตร์ เพื่อสอบถามข้อมูลรายละเอียด เบื้องต้นทำบันทึกคำให้การของนายวิชิตร์ เพื่อส่งไปยังศาลล้มละลายกลาง โดยที่นายวิชิตร์ ไม่ต้องเดินทางไปให้การที่กองบังคับคดีล้มละลายกลาง กรุงเทพฯ
ซึ่งนายวิชิตร์ ก็ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่เคยรู้จักกับบริษัทดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัทเลย แต่ไม่รู้ว่ามีชื่อไปเป็นผู้ถือหุ้นได้ยังไง
หลังมีหน่วยงานราชการลงพื้นที่มาช่วยเหลือ นายวิชิตร์ บอกว่า รู้สึกสบายใจและคลายความกังวลมากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกลัวจะถูกจับหรือถูกยึดบ้าน ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย