สุราษฎร์ธานี 19 ต.ค.-ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานีสุดแสบ หลอกยืมเงินคนไข้ฟอกไต และเพื่อนร่วมงาน ทั้งเปิดเป็นท้าวแชร์ ก่อนเชิดเงินหนีกว่า 3 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ป่วยโรคไต ที่กำลังนอนฟอกไตที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานีว่า ถูกผู้ช่วยพยาบาลหญิงคนหนึ่ง ที่ทำงานในห้องฟอกไตโรงพยาบาลแห่งนี้มานานประมาณ 8-9 ปี หลอกยืมเงิน ซึ่งคนไข้โดนหลอกแบบนี้หลายคน ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนรวมงาน ทั้งยังเปิดวงแชร์รายเดือน มือละ 3,000-5,000 บาท และเชิดเงินหนีไปมูลค่าเงินกว่า 3 ล้านบาท มีผู้เสียหายถึง 42 คน ซึ่งผู้เสียหายบางคนได้นำหลักฐานการยืมเงิน และข้อความที่คุยในกลุ่มไลน์รวบรวมเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.แล้ว โดยทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมออกหมายจับ
นางสุวรรณี อายุ 66 ปี เล่าว่าป่วยเป็นโรคไตมานาน ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทุกวันจันทร์, พุธ, เสาร์ มีค่าใช้จ่ายครั้ง 2,000-2,500 บาท ซึ่งตนเองเก็บเงินสะสมได้ 1 แสนกว่าบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แต่ถูกผู้ช่วยพยาบาลคนนี้หลอกยืมเงินไปหมด โดยผู้ช่วยพยาบาลคนนี้เป็นคนหน้าตาดี พูดเพราะทำให้ตนเองเชื่อใจ เข้ามาตีสนิทตั้งแต่ช่วงแรกที่ตนเองเข้ามารักษาตัว เข้ามาร้องห่มร้องไห้บอกว่า เดือดร้อน มีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก หากป้าไม่ช่วยเหลือแล้ว ไม่มีใครช่วย ด้วยความสงสารจึงให้ยืมไปหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 120,000 บาท จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ คาดไม่ถึงว่ารู้จักกันมานาน 8-9 ปีจะทำได้ ทั้งที่ตนเองคิดว่าเป็นลูกเป็นหลาน มีปัญหาอะไรให้บอก ผ่อนจ่ายทีละนิดก็ได้ ไม่ว่า ขอให้ติดต่อมา
น.ส.จิราพร แม่บ้าน ห้องแผนกไตเทียม ผู้ตกเป็นเหยื่ออีกคนเล่าว่า รู้จักกับผู้ช่วยพยาบาลคนนี้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานเมื่อ 8-9 ปีก่อน กินข้าวด้วยกัน เจอหน้ากันทุกวันไม่คิดว่าจะทำกับตนเองและเพื่อนร่วมงานได้ ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาทำงาน ตีสนิทคุยเรื่องงาน และขอร้องไม่ให้เพื่อนร่วมงานบอกว่ามาทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพราะเคยทำความผิดมา แต่ได้รับโทษแล้ว ปกติยืมเงินก็คืน ช่วงหลังเปิดวงแชร์ ชักชวนเพื่อน คนไข้ ญาติคนไข้เล่นแชร์ ตอนแรกตนเองไม่เล่นเพราะเคยถูกโกง แต่ถูกคะยั้นคะยอจึงใจอ่อนยอมเล่น ซึ่งต้องได้เงินแชร์งวดวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา 3 หมื่นกว่าบาท แต่ว่าผู้ช่วยพยาบาลคนนี้กลับหลบหนี ไม่มาทำงานตั้งแต่ 10 ต.ค. ปิดเฟซ ปิดไลน์ โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ เมื่อสอบถามไปทางสามีผู้ช่วยพยาบาล ก็บอกไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น อยากให้ติดต่อกลับมา เพราะสงสารคนไข้ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุทั้งนั้น กว่าจะเก็บเงินได้เพื่อรักษาตัว บางคนใช้เวลานานเกือบทั้งชีวิต.-สำนักข่าวไทย