เด็กชาย 3 ขวบดับปริศนาหลังกระดูกแขนหลุด

กาฬสินธุ์ 12 ต.ค.-สลด เด็กชายวัย 3 ขวบ เสียชีวิตปริศนา หลังพบบาดแผลหน้าผากปูด ขอบตาบวมเขียวช้ำ กระดูกแขนหลุด ตำรวจและแพทย์อายัดศพ พร้อมเร่งส่งตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต


เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์นำร่างของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ 5 เดือน ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ส่งไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น หลังจากเป็นผู้ป่วยอาการหนักถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลสมเด็จพยุพราชกุฉินารายณ์ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กระทั่งเสียชีวิตเมื่อช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เบื้องต้นแพทย์พบบาดแผลบริเวณหน้าผากมีอาการบวมปูด ขอบตาบวมมีรอยเขียวช้ำ และกระดูกข้อต่อบริเวณศอกแขนข้างซ้ายหลุดออกจากกัน อีกทั้งจากการสอบประวัติผู้ป่วยกับทางญาติให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน เด็กวิ่งหกล้ม และวันเกิดเหตุเด็กล้มฟุบในห้องน้ำ แต่เนื่องจากบาดแผลที่พบตามร่างกายขัดแย้งกันข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติคนป่วยหลายอย่าง ประกอบกับการเสียชีวิตผิดจากธรรมชาติ ทางตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ทำการอายัดศพเด็กไว้แล้วส่งไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด


ทั้งนี้ในการส่งศพเด็กชายเอไปชันสูตร มีแม่ และพ่อเลี้ยง รวมถึงญาติเดินทางไปดูศพที่อาคารพักศพและเดินทางไปด้วย แต่ยังได้ให้ข้อมูลใดๆ โดยทางโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ได้ส่งเรื่องผลการชันสูตรเบื้องต้นดังกล่าวไปยังบ้านพักเด็ก และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบคุ้มครองเด็กให้ทราบแล้ว โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรของแพทย์ถึงสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวทางตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้รับทราบเรื่องแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีญาติหรือผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ เท่าที่ประสานงานกับตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบในการชันสูตรการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ทราบว่าได้ส่งตัวไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ อีกทั้งบาดแผลที่พบตามร่างกายไม่สอดคล้องกับประวัติผู้ป่วยที่ถูกระบุว่า วิ่งหกล้มและล้มในห้องน้ำ โดยตำรวจจะต้องรอผลการชันสูตรก่อนว่าสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเกิดจากสาเหตุใด ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก