fbpx

รวบสาวตุ๋นต่อพาสปอร์ตเสียหายเกือบ 7 ล้าน

สมุทรปราการ 9 ต.ค.-ตำรวจบุกรวบหญิงสาวขบวนการตุ๋นต่อพาสปอร์ตแรงงานต่างด้าวเสียหายเกือบ 500 ราย มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท อ้างตัวเป็นนักข่าวช่องดัง ตีสนิทถ่ายรูปคู่นายตำรวจ


หลังจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ให้ดำเนินคดีกับนางสาววาสนา วงค์คำจันทร์ ที่เรียกเก็บเงินในการทำพาสปอร์ต ให้กับชาวต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และยังคงหลบหนีอยู่ จนถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถต่อพาสปอร์ตได้

ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บุกเข้าตรวจค้นและเข้าจับกุมนางสาววาสนา วงค์คำจันทร์ คาบ้านพักย่านอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบของกลางเป็นพาสปอร์ตจำนวน 40 เล่ม และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง หลังมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา และกัมพูชา จำนวนกว่า 100 คน หลังถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน


โดยพฤติกรรมของสาวแสบรายนี้ คือ ชอบตีสนิทกับนายตำรวจระดับสูง และนักข่าว แล้วขอถ่ายรูปคู่โพสต์ในโซเชียล อีกทั้งยังมีการแอบอ้างใช้โลโก้ของสถานีโทรทัศน์ช่องดัง ขึ้นโปรไฟล์ในเฟซบุ๊ก รวมถึงใช้ชีวิตหรูหรา และที่บ้านของผู้เสียหายเองได้ขึ้นป้ายเปิดเป็นบริษัท รับต่อพาสปอร์ต วีซ่า และใบอนุญาตทำงาน หรือ work permit ให้กับชาวต่างด้าว โดนเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน รวม 7 เดือน ผู้ต้องหามีการเรียกเก็บเงินในการทำพาสปอร์ต ให้กับชาวต่างด้าวที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย และที่ยังคงหลบหนีอยู่ มีผู้เสียหายประมาณ 500 คน ซึ่งกำลังทยอยกันเข้าแจ้งความ โดยเรียกเก็บหัวละ 5,000-17,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท ซึ่งนางสาววาสนาปฏิเสธไม่ได้ทำตามที่กล่าวหา

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ คัดค้านการประกันตัว และดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงเอาไว้ก่อน ส่วนข้อกล่าวหาอื่นนั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะผู้ต้องหารายนี้กระทำผิดข้อหาเดียวกันมาก่อนหน้านี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.