พิษณุโลก 8 ต.ค. – ยายวัย 60 ปี ชาวบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก วอนสังคมช่วยเหลือ บริจาคเงินคนละเล็กละน้อย อยากได้รถเข็น อุปกรณ์ค้าขายข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ชีวิตลำเค็ญ ต้องดูแลสามีนอนป่วยติดเตียงมานาน 4 ปีแล้ว รายได้มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการยังชีพ
มีเรื่องราวชีวิตตายายคู่หนึ่งที่อยู่อย่างยากลำบาก และอยากวิงวอนสังคมช่วยเหลือ ยายวัย 60 ปี ต้องคอยดูแลตาคู่ชีวิตวัย 65 ปี ที่นอนป่วยติดเตียงมา 4 ปี จากอดีตที่ทั้งคู่เคยเปิดร้านอาหารตามสั่งในตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ แต่ต้องขายทุกสิ่งทุกอย่างและมาปลูกบ้านพักที่ผู้ใจบุญให้อาศัย ณ บ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก มีเพียงเงินจากรัฐ เบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ เดือนละ 1,400 บาท บางมื้อต้องให้ตากินข้าวต้มกับน้ำปลาและซีอิ๊ว
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักไม่มีเลขที่ บริเวณหลังสวนยางพารา ใกล้โรงเรียนทรัพย์ไพรวัลย์วิทยาคม พบตายายคือ นายสมศักดิ์ พรมมินทร์ อายุ 65 ปี และนางพัชรินทร์ พรมมินทร์ อายุ 60 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 15/26 ม.3 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ส่วนบ้านที่พักในปัจจุบัน เป็นบ้านพักชั้นเดียวขนาดเล็ก ปลูกแบบง่ายๆ ในที่ดินของแม่พี ชาวบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ สภาพบ้านค่อนข้างเล็กและทรุดโทรม ไม่มีหน้าต่าง ภายในกางมุ้งอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากบริเวณบ้านเป็นป่าและมียุงเยอะมาก มีนายสมศักดิ์ที่ป่วยอัมพฤกษ์ ร่างกายซีกซ้ายอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องนอนอยู่ในมุ้งตลอดเวลา ส่วนภรรยาคือ นางพัชรินทร์ จะเป็นผู้ดูแลคู่ทุกข์คู่ยากทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งอาหารการกิน อาบน้ำ เช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อม รวมถึงต้องตระเวนรับจ้างทั่วไป เพื่อหาข้าวสารมายังชีพ
นางพัชรินทร์ เปิดเผยว่า ตนและสามีมีภูมิลำเนาอยู่ในบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ต.แก่งโสภา มาตั้งแต่เกิด อยู่กินจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว 18 ปี ในอดีต เคยประกอบอาชีพเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ในตลาดทรัพย์ไพรวัลย์ ขายอาหารตามสั่ง ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง แต่แล้ว 4 ปีก่อน นายสมศักดิ์เริ่มมีอาการป่วย ร่างการซีกซ้ายไม่มีแรง จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาล 1 เดือนเต็ม แต่สภาพร่างกายก็ไม่สามารถกลับมาแข็งแรงดังเดิมได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง จากนั้นชีวิตก็เริ่มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง การประกอบอาชีพค้าขายเริ่มทำไม่ได้ เพราะต้องคอยดูแลนายสมศักดิ์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ตลอดเวลา เริ่มขายอุปกรณ์การทำอาหารออกไปหมด และมาคุณแม่พี เจ้าของที่ดิน ที่รู้จักกันในช่วงค้าขาย อาศัยปลูกบ้านอยู่ แม่พีก็ใจดีให้มาอยู่อาศัยได้ โดยต่อไฟฟ้าและน้ำประปาจากเพื่อนบ้าน เสียค่าไฟเดือนละ 200 บาท
นางพัชรินทร์ เผยต่อว่า สภาพความเป็นอยู่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาค่อนข้างลำบาก เพราะตนไม่สามารถออกไปรับจ้างตามปกติได้มาก ต้องกลับมาคอยดูแลนายสมศักดิ์ที่ต้องปล่อยให้นอนอยู่ในมุ้งตลอดเวลา และไม่มีญาติอยู่เลย เนื่องจากตนและนายสมศักดิ์ต่างเป็นลูกคนเดียว เมื่อพ่อแม่ทั้งคู่เสียชีวิต และตนก็ไม่มีลูกด้วยกัน จึงอยู่ในสภาพไร้ญาติ ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากกำนันตำบลแก่งโสภา อบต.แก่งโสภา และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังทอง แต่ทางราชการก็ไม่สามารถช่วยเหลือเป็นตัวเงินได้ตลอดเวลา ทุกวันนี้อาศัยเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 บาท และเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท รวม 1,400 บาท ซึ่งไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้จ่ายในการซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพื่อเปลี่ยนให้นายสมศักดิ์วันละ 3 ชุด บางวันไม่มีเงินเหลือ ต้องต้มข้าวต้มและเหยาะน้ำปลา เหยาะซีอิ๊วให้สามีกิน แต่ยังโชคดีที่เพื่อนบ้าน เจ้าของที่ดินคือแม่พี จะคอยช่วยเหลือ แบ่งปันข้าวสารกับข้าวให้ได้กินบ้าง
อยากวิงวอนให้สื่อช่วยเป็นสื่อกลาง ขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ เพื่อตนจะนำเงินมาซื้อรถเข็น และอุปกรณ์สำหรับค้าขายข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ที่เคยตนทำกินอยู่ เพราะจะสามารถออกไปค้าขายเช้าเย็น สามารถกลับมาดูแลสามีได้
สำหรับผู้ใจบุญต้องการจะช่วยเหลือตายายคู่นี้ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่นางพัชรินทร์ พรมมินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 09-7946-5531 หรือบัญชีธนาคารออมสิน สาขาทรัพย์ไพรวัลย์ ชื่อบัญชี นางพัชรินทร์ พรหมมินทร์ บัญชีเลขที่ 020107412437 .-สำนักข่าวไทย