ตรัง 30 ก.ย.- แชร์กระหน่ำโซเซียล ขณะที่แม่ผู้เสียหายยังไม่พร้อมให้รายละเอียด ด้าน ผกก.เมืองตรัง ยืนยันตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามแผนพิทักษ์เมือง แจงเจรจากับทางแม่เด็กแล้ว เบื้องต้นไม่ติดใจเอาความ
จากกรณีเพจหลายเพจกระหน่ำแชร์คลิป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่กล้องติดหน้ารถยนต์คันหนึ่งสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่รถตำรวจไล่กวดรถ จยย.ชนกระเด็น โดยโพสต์ระบุข้อความว่า “ #ตรัง #เกินไปไหม สดๆร้อน ครับ เวลาประมาณ 18.20 น. ถนนสาย วัดโคกยาง-นาเมืองเพชร รอยต่อ อ. สิเกา กับ อ.กันตัง ชีวิตคนคนๆ หนึ่ง ทำไมต้องทำแบบนี้ ไม่ว่าเขาผิดอะไร เกินกว่าเหตุไหมครับพิจารณาดู รถผมขับตามระยะประชิด สภ.ไหน หว่า” หลังจากมีการโพสต์คลิปดังกล่าวออกมาเผยแพร่มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และแชร์คลิปกัน โดยส่วนใหญ่ตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา
ล่าสุดได้มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “ความทรงจำ สีจาง” ซึ่งเป็นแม่ของผู้บาดเจ็บ (ชื่อน้องเจมส์) เข้ามาตอบคอมเมนต์ในเพจดัง ด้วยข้อความว่า “เราเป็นแม่ของน้องที่ขับรถจ้า ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้ว” “ไม่เกิดกับลูกคุณคุณพูดได้ ลูกเราไม่ได้มีอะไรผิดกฎหมายสักอย่างที่ตัว ก่อนว่าเช็กให้ดีก่อนนะ ไม่มีใบขับขี่แล้วเขาเลี้ยวกลับ” พร้อมกับโพสต์ภาพลูกชายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง พบแผลบริเวณร่างกาย ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อแม่เพื่อขอสัมภาษณ์แต่ทางแม่ยังไม่สะดวกที่จะให้รายละเอียดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว ทาง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก สภ.เมืองตรัง กล่าวว่า เหตุการณ์ตามคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านตามแผนพิทักษ์เมือง ปรากฏว่า น้องได้ขับ จยย.มาพอเห็นด่านก็เลี้ยวกลับ ทางตำรวจได้ไล่ตามและมีการเบียดกันทำให้น้องเขาเสียหลักล้มลม หลังจากเกิดเหตุทางตำรวจได้ดูแลพร้อมนำส่งโรงพยาบาลเองและพ่อแม่ผู้ปกครองได้มานั่งคุย ซึ่งทางพ่อแม่ผู้ปกครองเบื้องต้นไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซึ่งแรกเริ่มทางตำรวจจะนำตัวส่ง รพ.เอกชน ปรากฏว่า รพ.เอกชนจะให้นอนรักษาตัว แต่ญาติบอกไปโรงพยาบาลรัฐดีกว่าจะได้เสียค่าใช้จ่ายไม่เยอะ จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลตรัง และแพทย์ทำการตรวจร่างกายพบมีบาดแผลไม่มาก และอนุญาตให้กลับบ้านได้ เบื้องต้นมีบาดแผลถลอกที่บริเวณข้อศอกขวา ซึ่งเบื้องต้นตำรวจสงสัยว่าไหล่จะหลุด จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด แต่พบว่าเป็นแผลถลอกไม่มาก หลังจากนี้จะเข้าพูดคุยถึงการให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง แต่เบื้องต้นได้คุยกับพ่อแม่เรียบร้อยแล้ว และไม่ติดใจเอาความ.-สำนักข่าวไทย