นนทบุรี 29 ก.ย.-ศาลสั่งปรับ 5,000 บาท ครูฟิลิปปินส์ที่ใช้ความรุนแรงกับเด็ก ข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต
ที่ศาลแขวงนนทบุรี พนักงานอัยการศาลแขวงนนทบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า ชาวฟิลิปปินส์วัย 25 ปี ครูที่กระชากแขนเด็กอนุบาลในห้องครูจุ๋ม เป็นจำเลยในคดีอาญาดำต่อศาลแขวงนนทบุรี ข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ศาลพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชกำหนด การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 มาตรา 8, 101 วรรคหนึ่ง ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 5,000 บาท
ทั้งนี้ นายมาร์วิน เดินทางเข้าไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 จากนั้นกลับประเทศไม่ได้เพราะโควิดระบาด จึงได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ต.ค.63 โดยเรื่องยังรออนุมัติ ระหว่างนี้นายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ รร.สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ เริ่มทดลองงานเมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 ได้ค่าจ้างเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงานจึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง
พลตำรวจโทสมพงศ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบแล้ว นายมาร์วิน พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน ที่ผ่านมาทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ตรวจสอบครูชาวต่างชาติที่สอนภาษาตามโรงเรียนต่างๆ ว่ามีการขอเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง และทำเรื่องขออยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องหรือไม่ ซึ่งมีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วหลายคน แต่ก็กำชับให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้ใช้หลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ควบคู่กันไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย จึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ จึงมีการอนุโลมให้พักอาศัยในราชอาณาจักรไปก่อน ตามมติ ครม. อีกทั้งครูสอนภาษาชาวต่างชาติยังเป็นที่ต้องการของโรงเรียนต่างๆ จึงจำเป็นต้องให้มีครูชาวต่างชาติสอนเด็กนักเรียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมฝากให้สถานศึกษาต่างๆ สอดส่องดูแลครูชาวต่างชาติให้ดำเนินการเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง อีกทั้งต้องคำนึงถึงคุณภาพ และคุณวุฒิของครูชาวต่างชาติเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย