แม่ ป.2 ร้องสื่อลูกถูก ม.3 ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ

ตรัง 25 ก.ย.- แม่น้อง ป.2 วัยแค่ 8 ขวบ ร้องขอความเป็นธรรมสื่อ กรณีลูกชายถูกรุ่นพี่ ม.3 ตบตีทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ถูกผู้บริหารโรงเรียนขอร้อง แต่สุดท้ายไม่มีการลงโทษคู่กรณี


นางวรรดี ณ พัทลุง อายุ 39 ปี ผู้เป็นแม่ของน้องกฤต (ด.ช.ธนกฤต) อายุเพียง 8 ปี นักเรียน ชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง ร้องเรียนกับสื่อ ว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ศีรษะและมือ จากรุ่นพี่ ม.3 โรงเรียนเดียวกัน เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา จนต้องรีบหามส่งโรงพยาบาลเพื่อสแกนสมอง ล่าสุดด้านโรงเรียนและผู้ปกครองรุ่นพี่ ม.3 เงียบไร้วี่แววการเยียวยา และแสดงความรับผิดชอบและได้พาลูกย้ายโรงเรียนแล้ว

นางวรรดี กล่าวว่าหลังเกิดเหตุ ครูฝ่ายปกครองที่ตามไปที่ รพ.ตรัง สั่งห้ามตนว่าห้ามลงสื่อ และห้ามแจ้ง สพฐ. เพราะกลัวโรงเรียนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนไปโรงเรียนเพื่อขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ได้รับคำตอบว่าจะให้ดู แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดู ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทั้งที่ รพ. และที่โรงเรียน ตนไม่ได้รับคำพูดอะไรจากทางโรงเรียนที่แสดงถึงความรู้สึกเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีการกล่าวคำขอโทษ และทางผู้ปกครองน้อง ม.3 ก็ไม่มีใครโทรมาสอบถามเรื่องอาการของลูกตนเลย และไม่มีการมาเยี่ยมเยียน ในความรู้สึกของตนนั้นรับไม่ได้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ แล้วพอนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 8 กันยายน ซึ่งมีตนกับน้องสาว ผอ.โรงเรียน ครูฝ่ายต่างๆ และผู้ปกครองรุ่นพี่ที่ทำร้ายลูกชาย ทางโรงเรียนก็บ่ายเบี่ยงไม่บอกความจริง ท้ายที่สุดตนยื่นข้อเสนอให้ทางโรงเรียนและผู้ปกครองของรุ่นพี่ ม.3 รับผิดชอบเยียวยาสภาพจิตใจลูกและครอบครัว จำนวน 300,000 บาท แต่ทางโรงเรียนและผู้ปกครองรุ่นพี่ไม่รับข้อเสนอ ส่วนรุ่นพี่ ม.3 ที่กระทำผิด ทางโรงเรียนจะพักการเรียนและเรียกผู้ปกครองของเด็กที่กระทำผิดมาตักเตือน ในส่วนของแม่ที่เสียหาย หากรับได้ไม่ได้ก็แล้ว แต่ถ้าจะไปแจ้งความทางโรงเรียนก็ไม่ขัดข้อง


นางวรรดี ณ พัทลุง แม่ของน้องกฤต ยังบอกอีกว่า หลังแจ้งความที่ สภ.ย่านตาขาว ทางตำรวจก็มีการเรียกไปเจรจาไกล่เกลี่ย ทั้งตัวแทนพี่ ม.3 ตน กับน้องสาว และทางโรงเรียน ตนก็บอกข้อเสนอไปให้ทางโรงเรียนและคู่กรณีรับผิดชอบ โดยทางตำรวจก็ได้ถามว่าราคาหรือค่าเสียหายสามารถลดหย่อนได้แค่ไหน ตนก็บอกไปว่าให้โรงเรียนและคู่กรณีบอกมาว่าจะรับได้แค่ไหน ก็บอกมา แต่ทางโรงเรียนและคู่กรณีก็บอกว่า เขารับไม่ได้ ยอมจ่ายได้เฉพาะค่าปรับเท่านั้น หลังเกิดเหตุได้ย้ายลูกไปเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.ปะเหลียน

อย่างไรก็ตาม จากการที่แม่ได้สอบถามจากเพื่อนๆ ของน้องกฤตและเด็กที่เห็นเหตุการณ์ ได้รับคำตอบว่า ในวันดังกล่าว น้องกฤตกับเพื่อนกำลังเดินไปจะไปกินข้าว พบเจอรุ่นพี่ ม.3 คนดังกล่าวเดินผ่านมา แล้วเพื่อนน้องกฤต บอกให้น้องกฤตเรียกพี่คนดังกล่าวว่า “กะเทย” น้องกฤต ก็ส่งเสียงไปว่า “กะเทย” ซึ่งคงเป็นเพราะความไร้เดียงสา และไม่เข้าใจความหมาย แต่ทำให้รุ่นพี่ ม.3 คนดังกล่าวไม่พอใจอย่างมาก จึงเข้ามาทำร้ายตบตีน้องกฤตอย่างรุนแรง จนน้องล้มลงกับพื้น และถูกเตะ จนบาดเจ็บตามบริเวณใบหน้า ศีรษะ และมือดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์

บขส.โคราชแน่น คนแห่เข้ากรุง หลังฉลองปีใหม่

บขส.โคราชแน่นต่อเนื่อง แห่ซื้อตั๋วรถโดยสารกลับกรุงเทพฯ คึกคัก ขณะที่ขนส่งจังหวัดฯ ตรวจสารเสพติดพนักงานขับรถเข้ม ป้องกันอุบัติเหตุ