ร้อยเอ็ด 21 ก.ย.-เจ้าของร้านขายข้าวสารในตลาดสด ตื่นมาเปิดร้านแต่เช้าตรู่ ถูกคนร้ายดักปาดคอแล้วแทงซ้ำจนเสียชีวิต ภรรยาใหม่มาดูที่เกิดเหตุ จำรองเท้าที่ตกอยู่ได้ ยืนยันเป็นของสามีเก่าที่เพิ่งหย่าร้างกันไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 05.30 น. วันที่ 20 ก.ย. 2563 ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในตลาดสดเทศบาลตำบลเกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ที่เกิดเหตุพบร่างนายพงษ์ศักดิ์ วิชัย อายุ 50 ปี เจ้าของร้านขายข้าวสาร นอนเสียชีวิตบนถนน สภาพศพนอนตะแคง สวมกางเกงวอร์มขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดคอปกสีฟ้าขาว ที่ลำคอด้านหน้ามีรอยถูกเชือดด้วยของมีคม 2 แผล ที่หน้าท้องถูกแทงอีก 1 แผล จนไส้ทะลักออกมากองอยู่ข้างนอก มีรอยเลือดหยดเป็นทางยาวจากร้านของผู้ตายระยะทางประมาณ 15 เมตร สอบถามเพื่อนบ้านและร้านค้าข้างเคียงทราบว่าไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ เนื่องจากเหตุเกิดเช้าตรู่ มีฝนตก ร้านอื่นๆยังไม่เปิด กระทั่งมีชาวบ้านที่มาจ่ายตลาดเห็นร่างนายพงษ์ศักดิ์นอนจมกองเลือดอยู่จึงให้คนมาช่วย แต่พบว่านายพงษ์ศักดิ์เสียชีวิตแล้ว
น.ส.สุนีย์ อินทร์ศรีเมือง อายุ 30 ปี ภรรยาใหม่ของผู้ตาย ที่เพิ่งมาอยู่ด้วยกันได้เดือนเศษ ร้องไห้เสียใจตลอดเวลา บอกว่า นายพงษ์ศักดิ์เป็นเจ้าของร้านขายข้าวสารที่เปิดอยู่ 2 คูหา และมีบ้านพักอยู่ติดกันกับร้าน เวลาประมาณ 05.00 น. นายพงษ์ศักดิ์ ตื่นแต่เช้าเพื่อเปิดร้านตามปกติ ส่วนตนเข้าไปอาบน้ำเสร็จแล้วจึงเดินลงจากบ้านเพื่อไปช่วยกันขายของ ขณะเดินลงจากบ้านก็ได้ยินเสียงมีคนร้องตะโกน จึงรีบวิ่งออกไปดูก็พบว่านายพงษ์ศักดิ์ ถูกแทงเสียชีวิตเสียแล้ว นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบวัตถุพยานที่คาดว่าจะเป็นของคนร้ายคือรองเท้าแตะ ซึ่งตนจำได้ว่าเป็นของสามีเก่า ที่เพิ่งหย่าร้างกันไปเมื่อ 2 เดือนก่อน คือ นายอุดร ยุพินครบุรี อายุ 46 ปี ซึ่งมีลูกด้วยกัน 3 คน นายอุดร มีอาชีพเร่ขายไอศกรีมแท่ง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา จะกลับมาบ้านเดือนละครั้ง
โดยช่วงปีที่ผ่านมา ตนได้รู้จักกับนายพงษ์ศักดิ์ผู้ตาย โดยติดต่อกันโซเชียล จนได้พบหน้าและรู้จักกัน ต่อมานายอุดรรู้เรื่องก็เกิดความหึงหวง เวลาเมาเหล้ามักจะพูดหาเรื่องและตบตีเป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว จึงแยกกันอยู่ และเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว นายอุดร มาขอคืนดีด้วย แต่ตนไม่ยอมคืนดีด้วย จึงไปตกลงจดทะเบียนหย่ากัน จากนั้นตนได้มาช่วยนายพงษ์ศักดิ์ค้าขาย และสุดท้ายด้วยความใกล้ชิดจึงมาอยู่ด้วยแบบสามีภรรยาเมื่อ 1 เดือนที่แล้ว เมื่อนายอุดรทราบเรื่องก็โทรศัพท์มาข่มขู่ทั้งโทรไปข่มขู่ผ่านทางญาติและโทรมาด้วยตนเอง กระทั่งก่อนเกิดเหตุ มีญาติมาบอกว่า นายอุดร โทรมาขู่ว่าบอกให้ตนและสามีใหม่ระวังตัวให้ดี และญาติก็ยังบอกว่านายอุดรกำลังจะกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด ซึ่งตนก็แจ้งให้นายพงษ์ศักดิ์ทราบ แต่ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือจริงๆ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ เคยมีภรรยาและลูก 2 คน แต่เลิกกับภรรยาเก่าไป 3 ปีเศษแล้ว สำหรับศพของนายพงษ์ศักดิ์ บิดาและมารดานำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 10 บ้านป่าม่วง ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
นางบังอร วิชัยแม่ของผู้ตายบอกว่า เมื่อคืนก่อนเกิดเหตุลูกชายกับลูกสะใภ้มากินข้าวเย็นด้วยกันที่บ้านของตน โดยตนบอกลูกให้รีบกลับไปพักผ่อนเพราะต้องเปิดร้านขายข้าวสารแต่เช้า ซึ่งทุกวันตนและนายสมานผู้เป็นพ่อจะผลัดกันไปช่วยลูกขายข้าวอยู่ทุกวัน โดยมีญาติขับรถยนต์ให้และอยู่ไม่ไกลกันนักเพราะเป็นพื้นที่ติดต่อกัน เช้าวันเกิดเหตุกำลังเตรียมตัวจะไปช่วยลูกขายของ แต่ลูกสะใภ้โทรมาบอกว่า ลูกชายถูกแทงเสียชีวิตแล้ว ตนเสียใจมาก หากจับคนร้ายได้ก้ขอให้ประหารชีวิต ตนไม่ให้อภัยและไม่ให้มาขอขมาศพลูกของตนด้วย
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขอศาลออกหมายจับนายอุดร ยุพินครบุรี จากศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ในข้อหาฆ่าคนตาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสจากชาวบ้านว่านายอุดรกลับมาบ้านแล้ว และกลางดึกเห็นขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไปแล้วไม่กลับเข้ามาบ้านอีกเลย คาดว่าอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งได้ประสานให้ญาติติดต่อขอให้นายอุดรมามอบตัวต่อไป.-สำนักข่าวไทย