จันทบุรี 18 ก.ย. – หลังรัฐบาลกัมพูชาขอเลื่อนส่งแรงงานชุดแรก 500 คน เข้ามาเก็บลำไยในพื้นที่ จ.จันทบุรี ด้วยเหตุผลที่กระทรวงมหาดไทยของไทย ร้องขอให้กัมพูชาร่วมมือคุมเข้มป้องกันโควิด-19 ทำให้ชาวสวนลำไยเดือดร้อนอย่างหนัก สหกรณ์ 2 แห่งในพื้นที่ จ.จันทบุรี เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวสวน
บรรยากาศที่หอประชุมสหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ชาวสวนลำไยใน อ.สอยดาว เข้าหารือกับนายวินนา ศรีสงคราม ประธานชุมนุมสหกรณ์ภาคตะวันออกและอิสานใต้ เพื่อให้ช่วยประสานทุกฝ่าย หาทางเร่งช่วยเหลือชาวสวนลำไย เนื่องจากไม่สามารถรอการเก็บผลผลิตนานเกินกว่าสิ้นเดือนกันยายนนี้ได้ เพราะหากล่าช้า ผลผลิตจะเสียหาย เนื่องจากสวนลำไยออกผลผลิตเต็มที่แล้ว แต่ยังขาดแคลนแรงงานจากกัมพูชาเข้ามา ที่ผ่านมาทุกฝ่าย ทั้งรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา, สมาคมชาวสวนลำไย จ.จันทบุรี หรือแม้แต่สหกรณ์ทุกสหกรณ์ในพื้นที่ อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ล่าสุดสหกรณ์ใน อ.สอยดาว กับ อ.โป่งน้ำร้อน ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะต่างปล่อยเงินกู้ให้ชาวสวนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์นำไปลงทุนปลูกลำไย รวมกันแล้วเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ไม่นับรวมเงินที่ชาวสวนไปกู้ยืมล้ง ธนาคารต่างๆ ทั้งนี้ สหกรณ์ใน 2 อำเภอ จะร่วมกันยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอแนวทางช่วยเหลือต่อไป. – สำนักข่าวไทย