“บิณฑ์-เอกพันธ์” ขอโทษทำ จนท.วัดเจดีย์โดนพักงาน

นครศรีธรรมราช 16 ก.ย. – “บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” ขอโทษเป็นเหตุทำให้ 16 เจ้าหน้าที่วัดเจดีย์ไอ้ไข้โดนพักงาน ปมไลฟ์ในเขตหวงห้าม ยืนยันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายและเงินเดือนของเจ้าหน้าที่ทั้ง 16 คนทั้งหมด


บรรยากาศที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มีความศรัทธาไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรืออาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า กรณีที่มีวัดต่างๆ ออกมาบอกว่ามีการเชิญไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ไปอยู่ที่วัดนั้นวัดนี้ และมีการเปิดเป็นวัดสาขาไอ้ไข่ต่างๆ มากมาย อาตมาอยากจะถามว่าการที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่ไปใช้อะไร ถ้าเชิญต้องเชิญไปทั้งหมด เชิญไปถึงคนที่เขาปฏิบัติมาเป็นเวลาร้อยสองร้อย ต้องเชิญพระพุทธรูปที่เป็นจุดกำเนิดของไอ้ไข่ คือเจ้าวัด

คนที่ต้องเชิญเป็นคนแรกคือผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอิน ต้องเชิญความเป็นสมัยก็คือสมัยวัดร้าง การที่บอกว่าเชิญไอ้ไข่ เชิญยังไง ถ้าบอกว่าอธิษฐาน คนที่มาที่วัดเขาก็อธิษฐานกันทุกคน เชิญได้ทุกคน การทำแบบนี้เพื่อเป็นประกาศให้รู้ว่าทำไอ้ไข่ขึ้นมา แต่จริงๆ ทำไม่ได้ เพราะอาตมาไม่เคยอนุญาตให้ที่ใดวัดไหน สถานที่ใด ทำหรือเอาไอ้ไข่ไปที่นั่น เพราะไอ้ไข่คือความศรัทธาของคนที่ทำให้คนเข้าวัด แล้วเราเอาพระพุทธศาสนาสอดแทรกเข้าไป
ส่วนคนที่บอกว่าเชิญไป อาตมาถามว่าเชิญไปเพื่ออะไร เพื่อหารายได้ใช่ไหม เขาไม่เรียกว่าเชิญ เขาเรียกเกาะติดกระแส เหมือนนักร้องคนหนึ่งเป็นเจ้าของเพลง คนจะเชิญไปร้องทุกบ้านไม่ได้ เราก็ซื้อได้แค่แผ่นเสียงไปฟัง ก็มีแผ่นปลอม แผ่นเก๊อีกก็ว่ากันไป และช่วงนี้เรื่องของไอ้ไข่ก็เยอะมาก มีทั้งในทีวี ในโซเชียล ไม่อยากให้คนตกไปเป็นเครื่องมือ ทั้งหมดไม่เกี่ยวกับวัดเจดีย์แต่อย่างใด วัดจะทำอะไรจะมีการปรึกษาหารือ มีการประกาศให้สาธารณชนรับทราบ


ส่วนถามจะมีการเอาผิดทางกฎหมายต่อผู้ที่เอาไอ้ไข่ไปแอบอ้างหรือไม่ เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ไอ้ไข่ กล่าวว่า อาตมาไม่คิด แต่มีบางวัดเอารูปของอาตมาไปขึ้นป้าย แล้วบอกว่าอาตมาอนุญาตแล้ว กรณีแบบนี้อาตมาจะเอาเรื่อง แต่จะมีการโทรไปบอกกล่าวกันก่อนให้หยุด หากไม่หยุดคงต้องว่ากันตามกระบวนการ แต่อาตมาเองไม่อยากจะทำแบบนั้น เพราะไม่มีเวลา อยากให้คนที่ทำคิดให้ได้ว่าเขาอาจได้เงินทอง แต่จะทำให้ไอ้ไข่จบเร็วเหมือนกับตอนกระแสจตุคามฯ หากอาตมาเล่นด้วย อนุญาตให้ทำ สุดท้ายก็จะจบเหมือนจตุคามฯ แต่อาตมาไม่อนุญาตให้ที่อื่นทำ ส่วนกรณีที่ใดเอาวัดหรืออ้างว่าได้อนุญาต หรืออภิสิทธิ์จากวัดเจดีย์แล้ว อันนี้ต้องว่ากันตามกฎหมาย

สำหรับกรณีของบิณฑ์ และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ มาไลฟ์ที่วัดเจดีย์แล้วบอกว่าอัญเชิญไอ้ไข่ไปด้วยนั้น จริงๆ กลุ่มนี้เขาได้มาทำพระที่วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด และเชิญอาตมาไปด้วย เพื่อให้อาตมาส่งมอบพระให้แล้วเขาจะได้ถ่ายรูปเพื่อเป็นสื่อ แต่อาตมาติดกิจนิมนต์เลยไม่ได้ไป เขาเลยมากันที่วัดแต่ไม่เจออาตมา เขาเลยเข้าไปในอุโบสถที่ห้ามไม่ให้ขึ้นไป คณะกรรมการก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง ที่เขาบอกว่าเป็นการอัญเชิญ แต่จริงๆ ไม่ใช่การอัญเชิญ แต่เป็นการโปรโมท ซึ่งสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเขาเองว่าเป็นอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาตมาต้องเอาผิดกับคณะกรรมการที่รับผิดชอบที่ปล่อยให้คุณบิณฑ์กับเอกพันธ์เข้าไป ทั้งที่เป็นเขตหวงห้าม ทางวัดต้องเชิญเจ้าหน้าที่ออกทั้งหมด 16 คน โดยคิดว่าจะให้พักงานก่อน 1 เดือน หากยังไม่มีแนวปฏิบัติที่จะช่วยป้องกัน ก็ต้องหาคนอื่นมาทำแทน ส่วนคนที่เป็นภาพในข่าวก็คิดเอาเองว่าจะปล่อยไลฟ์ออกไปอีกหรือจะยุติ


อาจารย์แว่น กล่าวอีกว่า ทางวัดได้มีการจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมา วัตถุมงคล ซึ่งงานที่วัดสร้างสรรค์ขึ้นมาถือเป็นลิขสิทธิ์ของวัดอยู่แล้ว จริงๆ อาตมาไม่อยากเอาเรื่องกฎหมายมาดำเนินการ แต่อยากให้ทุกคน โดยเฉพาะคนนครศรีธรรมราชช่วยกันรักษาปกป้องไอ้ไข่ไว้ให้ยืนยงคู่กับจังหวัด เพราะไม่ได้เลวร้าย แต่มันช่วยสังคมได้พอสมควร อยากให้ช่วยกันดูแลและรักษาดีกว่า อยากให้ดูยุคจตุคามฯ หากต่างคนต่างสร้าง ใครก็สร้างได้ก็จบเร็ว อาตมาไม่อยากให้ไอ้ไข่เป็นอย่างนั้น อยากให้ช่วยกันรักษามากกว่า

สำหรับต้นเรื่องที่กลายเป็นข่าว เกิดขึ้นหลังเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า สหฤทธิ์ ชูรัตน์ โพสต์ข้อความและภาพระบุว่าเป็นกรณีที่นักแสดงชื่อดัง บิณฑ์และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ได้ปรากฏภายในวัดเจดีย์ เพื่อต้องการบันทึกภาพและไลฟ์ ระบุว่าจะเอาไอ้ไข่ที่ถือในมือไปไว้ที่วัดดอนใหญ่ คลองแปด ลำลูกกา เพื่อให้คนได้สักการะไอ้ไข่ ที่ถือว่ามาจากวัดเจดีย์ จนทำให้เจ้าหน้าที่ถูกพักงานทันที 16 คนดังกล่าว และตั้งคำถามว่าบุญหรือบาป

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เมื่อเกิดมีความศรัทธามากๆ จะเริ่มมีการพาณิชย์เข้ามา การกระทำใดๆ ก็ตามทุกเรื่องมีกฎหมายรองรับกฎหมาย ไม่ต้องการให้นำวัตถุมงคลมาหลอกลวง ฉ้อโกง หรือจัดสร้างแล้วมีการยักยอกเงิน ส่วนเรื่องที่ผู้อื่นไปจัดสร้าง “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” จะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ ต้องสอบถามวัดได้จดลิขสิทธิ์หรือไม่ หากมีการจดลิขสิทธิ์ก็ต้องขออนุญาตกับวัด หากวัดอนุญาตก็สามารถจัดสร้างได้ ซึ่งที่ผ่านมาทางอัยการ จ.นครศรีธรรมราช เคยเข้าไปดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ให้กับวัดเจดีย์ในการจัดสร้างไอ้ไข่ หลังมีผู้อื่นไปจัดสร้างให้เช่าบูชา เนื่องจากที่วัดมีการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ถูกต้อง

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคดีที่เกี่ยวกับวัตถุมงคลที่ศาลมีคำพิพากษาทั้งบุคคลและพระสงฆ์ เช่น คดีเสี่ยอู๊ดฉ้อโกงประชาชน จัดสร้างพระเครื่องและโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเช่าบูชาพระสมเด็จเหนือหัวตามสื่อต่างๆ มีผู้เสียหายหลงเชื่อบูชาไปจำนวน 921 คน รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท คดีพระครูพิศิษฎ์คณาทร หรือพระครูสมุห์วิมลวิมโล ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนป่าน จ.นครศรีธรรมราช จัดสร้างจตุคามรามเทพ แต่เบียดบังเงินที่ประชาชนเช่าบูชากว่า 3 ล้านบาท ไม่นำเงินเข้าวัดตามวัตถุประสงค์ที่จัดสร้าง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยักยอกทรัพย์เป็นประโยชน์ส่วนตน ผิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ โทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา

สำหรับพฤติกรรมที่เข้าข่ายฉ้อโกง เช่น หลอกลวงที่มา จัดทำปลอม ผลิตขึ้นเองหลอกว่าเป็นของแท้ เอามาจากวัด มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนอัตราโทษละเมิดลิขสิทธิ์ ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หากทำเพื่อการค้า จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมฝากจะเห็นต่างกันแต่เราก็รักกันได้ ศรัทธาก็ไม่ว่าคนไม่ศรัทธา หรือไม่ศรัทธาก็ไม่ว่าคนศรัทธา เห็นต่างกันเราก็รักกันได้

ด้านบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ออกมาไลฟ์ล่าสุดบอกว่า เมื่อได้ข่าวเรื่องทางวัดพักงาน 16 คน ก็รู้สึกไม่สบายใจ ขออภัยทั้ง 16 คนด้วย โดยวันที่ 17 กันยายนนี้ จะลงไปรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่าย เงินเดือนของคนเหล่านั้นทั้งหมด เพราะเป็นลูกผู้ชายพอ และจะชี้แจงให้ทางเจ้าอาวาสทราบ สำหรับเหตุผลที่ไปไลฟ์ที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา วัตถุประสงค์ไม่ได้มีเจตนาทำอะไรให้ทางวัดเสื่อมเสียชื่อเสียง หรือหาประโยชน์จากไอ้ไข่เลย จุดประสงค์เพียงต้องการช่วยวัดดอนใหญ่ที่ จ.ปทุมธานี โดยใช้บารมีของไอ้ไข่อย่างถูกต้องเท่านั้น ด้านเฟซบุ๊กของทางวัดดอนใหญ่ คลองแปด ลำลูกกา โพสต์ว่าจะมีการชี้แจงเรื่องวัตถุมงคลไอ้ไข่ช่วงหลัง 13.00 น. วันนี้

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก กระแสไอ้ไข่ในช่วงใกล้วันหวยออก ผู้คนต่างเสาะหาวัดดังตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีหลายวัดที่มีไอ้ไข่มาตั้งเอาไว้ เพื่อให้ผู้ที่เชื่อและศรัทธากราบไหว้ขอพรและเลขเด็ดกัน ปรากฏว่ามีวัดที่มีรูปปั้นไอ้ไข่จำนวนหลายวัดด้วยกัน อาทิ วัดเด่นโบสถ์โพธิ์งาม วัดจันทร์ตะวันตก วัดคูหาสวรรค์ วัดเทพนิมิตกุญชร วัดจอมทอง ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองพิษณุโลก

โดยเฉพาะที่อุโบสถ์วัดเด่นโบสถ์โพธิ์งาม ต.บ้านกร่าง อ.เมืองพิษณุโลก มีรูปไอ้ไข่ยืนอยู่หน้าอุโบสถ์ มีผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้กันขอพรและเสี่ยงโชค โดยมีเซียมซียักษ์ให้เสี่ยงโชคอีกด้วย พระครูมนูญ บุญยวาท เจ้าอาวาสวัดเด่นโบสถ์ เปิดเผยว่า ได้เชิญไอ้ไข่จาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำมาตั้งหน้าพระอุโบสถ์วัดเด่นโบสถ์โพธิ์งาม เพื่อให้ประชาชนบุคคลทั่วไปกราบไหว้ อธิษฐานจิตขอพรกัน ถ้าใครมีโชคก็จะมาแก้บนเป็นหัวหมูไก่ สิ่งของต่างๆ มีการจุดประทัด ถวายพัดลม ทีวี จักรยาน ขนมเปี๊ยะ เกือบทุกวัน เว้นเฉพาะวันพระเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย