สกลนคร 14 ก.ย. – ชาวบ้านโพนสวาง หมู่ 2 และบ้านโนนเบ็น หมู่ 11 ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร เข้าร้องเรียนหลังไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 20 ปี ต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบในพื้นที่มีผู้เดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ในการดำรงชีพ และทำการเกษตร
นายสถิตย์ ไทยเหนือ ชาวบ้านโนนเบ็น เล่าว่า ครอบครัวย้ายมาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ 20 กว่าปีก่อน ตอนนั้นมีบ้านเรือนไม่กี่หลัง ภายหลังมีผู้ย้ายเข้ามาอาศัยมากขึ้น จึงรวมตัวกันไปดำเนินการขอบ้านเลขที่ และขอไฟฟ้าจากเทศบาล ต.เชียงเครือ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.สกลนคร แต่ปรากฏเรื่องที่ส่งไปผ่านมา 5 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้า จึงทำหนังสือแจ้งความประสงค์เน้นย้ำเข้าไปอีกครั้ง แต่เรื่องก็ยังเงียบ จึงต้องเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่แท้จริงในพื้นที่
ตอนนี้ยิ่งลำบากหนัก ทำโรงสีข้าว แต่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ทำให้มีต้นทุนสูงมาก เช่นเดียวกับการเลี้ยงปลา ปลูกถั่วฝักยาว ปลูกข้าวโพด และทำการเกษตรอื่นๆ ต้องสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อ โดยการใช้น้ำมันแทนไฟฟ้า สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แม้จะลงทุนนับหมื่นติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ แทนการใช้แบตเตอรี่หรือตะเกียงส่องสว่างที่ใช้ประจำ แต่ก็ช่วยได้แค่บางส่วนเท่านั้น
ที่บ้านโพนสวาง หมู่ 2 ก็เดือดร้อนไม่ต่างกัน พวกเขาพยายามยื่นเรื่องขอไฟฟ้าไปแล้วหลายครั้ง โดยบ้านเรือนทั้ง 17 หลังคาเรือน อยู่ใจกลางระหว่างบ้านโพนสวาง บ้านโนนเบ็น บ้านโคกสว่าง และบ้านทุ่งมน เขต ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร
เรื่องนี้มีคำถามจึงสอบถามไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้เร่งตรวจสอบและให้การช่วยเหลือชาวบ้านผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งต้องทนลำบากอยู่ภายใต้ความมืดมิดมานานกว่า 20 ปี โดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย