ขอนแก่น 10 ก.ย.- เช้าวันนี้ จัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนหารอยเท้าหมีในพื้นที่ป่าชุมชนผาสวรรค์ และวางแผนจะใช้โดรนตรวจจับความร้อนประสิทธิภาพสูงขึ้นบินที่ระดับความสูงประมาณ 10 เมตร เหนือพื้นที่ป่าและป่าอ้อย
เข้าสู่วันที่ 3 ของการตามล่าตัวหมีควายที่ออกมาทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ในพื้นที่ตำบลบริบูรณ์ อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับตัวหมีตัวดังกล่าวได้ ล่าสุดนายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานได้มีการระดมเจ้าหน้าที่กว่า 300 นาย พร้อมกับปืนยิงยาสลบ การใช้โดรน และพารามอเตอร์ขึ้นบินติดตามหาตัวหมีควายทางอากาศ พร้อมกับนำขนุนใส่กรงเพื่อดักจับหมีควายแต่ก็ยังไม่สามารถจับตัวหมีได้ เช้าวันนี้ได้จัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนหารอยเท้าหมีในพื้นที่ป่าชุมชนผาสวรรค์ และเตรียมวางแผนที่จะใช้โดรนตรวจจับความร้อนประสิทธิภาพสูงขึ้นบินที่ระดับความสูงประมาณ 10 เมตร เหนือพื้นที่ป่าและป่าอ้อย ที่คาดว่าหมีควายจะหลบซ่อนตัวอยู่ ขณะเดียวกันได้ประสานเพื่อขอสุนัขตำรวจ เข้ามาดมกลิ่นเพื่อตามหาตัวหมีควายด้วย
ที่บ้านสันกำแพง หมู่ 12 ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ชาวบ้านอาสาสมัครกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าวังหมีบ้านสันกำแพง เข้าผลักดันช้างป่า 2 ตัว ชื่อ “เจ้างาเบี่ยง” และ “เจ้าอ้อน” เพศผู้ อายุ 20 ปี ที่ออกมาจากแนวเขตป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เดินข้ามถนน วังน้ำเขียว-เขาใหญ่ ช่วงกลางดึก และบุกไปกินพืชไร่ของชาวบ้าน บริเวณข้ามฝั่งถนนอีกฟาก เกรงจะเกิดอันตรายกับประชาชนหรือนักท่องเที่ยว
ล่าสุดเช้าตรู่ที่ผ่านมา บริเวณบ้านคลองปลากั้งชาวบ้านพบฝูงกระทิงกว่า 30 ตัว หลุดออกพื้นที่นอกเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า กินพืชไร่ของชาวบ้าน เสียหายเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งอาสาสมัครกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่าวังหมีบ้านสันกำแพง บอกว่า ช่วงนี้สัตว์ป่าทั้งช้างและกระทิง ออกหากินนอกเขตมากขึ้น และเริ่มขยายอาณาเขตหากินใกล้บ้านเรือนชุมชนมากขึ้น สาเหตุน่าจะเกิดจากในเขตป่ามีอาหารไม่เพียงพอ
นายศิริพงษ์ พนาสนธิ์ ประมงจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนนทบุรี กว่า 20 คน นำอุปกรณ์ส่องสว่างลงพื้นที่กระจายกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณสระน้ำภายในอุทยานมกุฏรมยสราญ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี หลังมีชาวบ้านถ่ายคลิปวิดีโอจระเข้ ขนาดความยาวประมาณ 1 เมตรลอยโผล่อยู่กลางสระน้ำ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เดินตรวจสอบสระน้ำโดยรอบอย่างละเอียด แต่ยังไม่พบ จึงเปลี่ยนแผนใช้ตาข่ายดักนกที่เตรียมมาขึงกั้นขวางเส้นทางที่พบจระเข้ เพื่อเป็นการปิดเส้นทางให้แคบลง เนื่องจากสระน้ำมีเนื้อที่กว้างประมาณ 15 ไร่ และได้มีการจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนกันมาเฝ้าดูตลอดทั้งคืน ซึ่งถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้วไม่พบตัว วันพรุ่งนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนกันใหม่อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย