อุบลราชธานี 6 ก.ย.-ครอบครัวเศร้ารับศพวัยรุ่นเหยื่อ ตชด. คว้าปืนไล่ยิง ฉุนแซวหญิงในกลุ่ม ภรรยาผู้เสียชีวิตยืนยันสามีไม่ได้ทะเลาะกับใคร ขณะที่รองโฆษก ตร. เผยพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ย้ำให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ จำปี อายุ 26 ปี ตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จ.อุบลราชธานี ก่อเหตุยิงกันกับกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยรุ่นคู่อริ ทำให้นายอธิป แจ้งสว่าง อายุ 27 ปี ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต เนื่องจากถูกยิงเข้าที่หน้าอกและศีรษะ ส่วนอีก 2 คน คือ นายปรีชา ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่กลางหลังและเอวได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายวิฑูรย์ จูมภักดี อายุ 23 ปี ถูกยิงที่แขนขวา สาเหตุเนื่องจากมีปัญหากันเรื่องแซวหญิงในกลุ่ม ระหว่างเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในจ.อุบลราชธานี หลังก่อเหตุ ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ จำปี มือยิงได้หลบหนี ก่อนจะเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นำตัวไปชี้จุดที่ทิ้งปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนนำตัวไปสอบปากคำ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.ย. หลังสถานบันเทิงดังกล่าวปิดให้บริการ กลุ่มวัยรุ่น กับ ส.ต.ท.พุฒิสรรค์ จำปี ที่มีเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในร้านเนื่องจากกลุ่มวันรุ่นได้พูดแซวหญิงในกลุ่มกลุ่มตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อสถานบันเทิงปิดทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินไปที่รถเพื่อกลับบ้าน ทว่าบังเอิญรถของทั้ง 2 ฝ่ายจอดอยู่ใกล้กัน ด้วยความไม่พอใจกันอยู่แล้ว จึงเกิดการเขม่นกันขึ้นอีก และมีปากเสียงท้าทายกัน กลุ่มวัยรุ่นที่เสียชีวิตและกลุ่มตำรวจตระเวนชายแดน จึงชักปืนออกมายิงเข้าใส่กัน จนมีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา ครอบครัว และเพื่อน รวมกว่า 30 คน ร่วมเดินทางไปรับศพนายอธิป แจ้งสว่าง เหยื่อกระสุนตำรวจตระเวนชายแดน ที่กลุ่มงานนิติเวทย์ โรงพยาบาลเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าเรไรยกาวาส บ.ท่าข่องเหล็ก ต.คำน้ำแซบ อ.วารินชำราบ
ภรรยาผู้เสียชีวิต เผยว่าคืนเกิดเหตุตนและสามีรวมถึงเพื่อนอีกหลายคนไปเที่ยวด้วยกัน หลังร้านปิดสามีเดินไปเอารถที่ลานจอดรถหลังร้าน ส่วนตนรออยู่หน้าร้าน ไม่เห็นตอนถูกยิง แต่พอได้ยินเสียงปืนจึงได้วิ่งไปดูก็พบว่าสามีถูกยิงนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น โดยยืนยันว่าขณะที่อยู่ในร้านสามีไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกับใคร ตนอยู่กับสามีตลอดเวลา ส่วนผู้หญิงในกลุ่มคู่กรณีก็รู้จักกันกับสามีมาก่อน จึงไม่น่าเป็นการพูดแซว ทั้งนี้ตนอยากขอความเป็นธรรมเพราะคู่กรณีเป็นตำรวจ กลัวเรื่องเงียบไป
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่าจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มชายจำนวน 3 คน กับพวกเดินทางไปเที่ยวที่สถานบริการแห่งหนึ่ง แล้วเกิดทะเลาะวิวาทกับชายอีกคน ต่อมาทราบภายหลังว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ส.ต.ท. สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ซึ่งมาเที่ยวที่สถานบริการแห่งนี้เช่นเดียวกัน โดยกลุ่มชายจำนวน 3 คนกับพวก พากันออกมายังจุดจอดรถของพวกตน แล้ว ส.ต.ท. เดินตามมา จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงมายังกลุ่มชายจำนวน 3 คนกับพวกและได้หลบหนีไป ต่อมาผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่น” และได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการตรวจพิสูจน์และสอบปากคำพยานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดีก่อนจะสรุปความเห็นทางคดีส่งสำนวนการสอบสวนไปยังชั้นพนักงานอัยการ โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้กำกับการ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยต้องให้เวลาต้นสังกัดและเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนตรวจสอบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนต่อไป.-สำนักข่าวไทย