ชายเครียดยิงภรรยา-ลูกบุญธรรมดับ ก่อนยิงตัวตาย รวม 3 ศพ

ภูมิภาค 2 ก.ย. – พ่อเครียดยิงภรรยาและลูกบุญธรรมเสียชีวิต ก่อนใช้ปืนลูกซองยาวกระบอกเดียวกันยิงตัวตายตาม ญาติเปิดใจก่อนก่อเหตุพิมพ์ข้อความสั่งลาในไลน์กลุ่มญาติๆ คาดเครียดหาเงินค่าเทอมให้ลูกบุญธรรมไม่ได้


ตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรเข้าตรวจสอบภายในบ้านไม้ยกสูง มุงสังกะสี ไม่มีเลขที่ ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมือง หลังรับแจ้งเหตุยิงกัน พบศพนายพยอม ศรีทอง อายุ 59 ปี นอนอยู่ข้างมุ้ง มีบาดแผลถูกยิงที่คาง มีปืนลูกซองยาวที่ปลายเท้าด้านซ้าย บนที่นอนพบศพนางสำราญ ศรีทอง อายุ 53 ปี นอนคว่ำหน้า ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง ด้านข้างพบศพนางสาววิภาวรรณ ภูนากเกี้ยว อายุ 20 ปี ถูกยิงที่หน้าอกซ้าย มีผ้าห่มคลุมอยู่ ฝาบ้านมีรอยกระสุนทะลุออก 4 รู เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน ทั้งคราบเขม่าดินปืน จุดกระสุนปืนที่ฝาบ้าน และร่องรอยกระสุนปืน ทรัพย์สินในบ้านยังอยู่เป็นปกติ ไม่มีร่องรอยรื้อค้นหรือต่อสู้

นางศุภวรรณ พุ่มเจริญ ญาติผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายพยอม ผู้ตาย ได้พิมพ์ข้อความสั่งเสียในไลน์กลุ่มญาติ ด้วยความเป็นห่วงจึงรีบมาดู พบว่านายพยอมอยู่ภายในบ้านปิดประตูล็อกด้านใน ตนจึงมองไปที่ช่องหน้าต่าง เห็นนายพยอมร้องไห้ จึงชวนคุยถามถึงภรรยากับลูกไปไหน ได้ยินเสียงตอบว่าไม่อยู่แล้ว จากนั้นนายพยอมได้ชักปืนขึ้นมา บอกให้ตนเองกลับไป ด้วยความกลัวจึงถอยห่างออกมา และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงไปตามญาติมาเปิดประตู พบทั้ง 3 คนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นเพราะเรื่องเงินและหนี้สิน โดยนางสาววิภาวรรณ ซึ่งเป็นลูกบุญธรรม ปัจจุบันกำลังเรียนชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ล่าสุดได้กลับมาที่บ้านเพื่อขอค่าเทอมกว่า 20,000 บาท คาดว่านายพยอมเกิดความเครียด ไม่มีเงินค่าเทอม จึงตัดสินใจจบชีวิตตนเอง ลูกบุญธรรม และภรรยา


ส่วนที่จังหวัดสกลนคร พบศพนายธนากร สุมมาตย์ อายุ 31 ปี เสียชีวิตอยู่ในรถเก๋ง ทะเบียน กน4984 สกลนคร จอดอยู่ถนนหลังจุดชมวิวหนองหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมีพลเมืองขับรถผ่าน เมื่อเวลา 10.00 น. ผ่านไป 30 นาที รถก็ไม่ขยับไปไหน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ในรถมีเตาอั้งโล่และเศษเถ้าถ่านกองอยู่ เบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตเตรียมการมาอย่างดี ภายในรถพบยาคลายเครียด 1 แผง มีรอยแกะรับประทานไปแล้ว 2 เม็ด

เพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ให้ข้อมูลว่าผู้เสียชีวิตเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ เพิ่งรับราชการมากว่า 2 ปี ช่วงเช้าบอกว่าจะออกไปหาซื้อยารับประทานเพราะปวดท้อง แต่หายไป พยายามโทรไปสอบถามอยู่เป็นช่วงๆ แต่ไม่รับสาย กระทั่งมาทราบข่าวว่าเสียชีวิต ปกติผู้ตายเป็นคนร่าเริง ไม่มีอาการบ่งบอกว่าจะทำร้ายตนเอง แต่เป็นไปได้อาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพจากโรคประจำตัวที่รุมเร้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหลักฐานโดยละเอียด เพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร เพื่อติดต่อญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศล.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก