ตาก 2 ก.ย.- ผลสอบข้อเท็จจริงกรณีทอดแหจับปลาบึกบริเวณหนองเล่ม จ.ตาก มีมูลความผิด แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีและตั้งกรรมการสอบสวนเพิ่มเติม
กรณีทอดแหจับปลาบริเวณหนองเล่ม ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีผู้คนมาร่วมกิจกรรมทอดแหกว่า 600 คน โดยเก็บเงินค่าบัตรบัตรละ 600 บาท และมีภาพปลาบึกขนาดใหญ่ที่ถูกจับขึ้นมา วางบนกองบนถนน ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำดังกล่าวของผู้รับประมูลจัดงาน ผู้จัดงาน รวมถึงผู้อนุญาตให้มีการประมูลจับปลา
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จังหวัดได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งทางอำเภอบ้านตากได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงกว่า 40 คน มีผลสอบสรุปได้ว่า กรณีพื้นที่หนองเล่ม ไม่ได้อยู่ในเขตอภัยทาน สำหรับการทอดแหจับปลาในวันดังกล่าวดำเนินการโดยนายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา และนายกบ คลองลาน ผู้รับเหมาจัดงานทอดแห โดยมีข้อตกลงจ่ายเงินการจัดงานครั้งนี้ จำนวน 200,000 บาท โดยนายทวี เคลือบวัง ได้นำเงินไปฝากไว้ที่สหกรณ์การเกษตรบ้านตากจำกัด ชื่อบัญชี พัฒนาหนองเล่ม ตำบลเกาะตะเภา โดยมีผู้เปิดบัญชีร่วมกัน 3 คน 1 ในนั้นมีนายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภาด้วย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบการที่กล่าวอ้างว่า อบต.เกาะตะเภาจะมีโครงการจะขุดลอกปรับปรุงหนองเล่มนั้น ปรากฏว่า ไม่มีในแผนพัฒนาท้องถิ่นปี 2561-2565 ของ อบต.เกาะตะเภา และไม่เคยนำเรื่องการเปิดทอดแหเข้าพิจารณาในสภา อบต.เกาะตะเภา แต่อย่างใด
นายอำเภอบ้านตาก กล่าวว่า กรณีที่นายก อบต.เกาะตะเภา อ้างว่าได้มีการประชาคมคนในหมู่ 4 แล้ว จากตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการฯ ได้เรียกสอบผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และประชาชน หมู่ที่ 4 พบว่าวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เป็นการประชุมประจำเดือนตามปกติ ไม่ถือว่าเป็นการประชาคมหมู่บ้าน ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ไม่มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ เรื่องสอบการใช้อำนาจหน้าที่ของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะตะเภา จากการสอบพบว่า การกระทำของนายทวี เคลือบวัง นายก อบต.เกาะตะเภา มีพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการกระทำผิดฐานปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ และประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยและผิดศีลธรรมอันดีต่อประชาชน
ซึ่งจากมูลการสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏ อำเภอบ้านตากได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อสอบในกรณีดังกล่าว ซึ่งจะต้องดำเนินการสอบสวนและรายงานภายใน 60 วัน.-สำนักข่าวไทย