ลูกสาวชายถูกยิงดับหน้าร้านอาหารอ่างทอง วอนผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำ ตร.

อ่างทอง 30 ส.ค. – ลูกสาวของชายถูกยิงเสียชีวิตหน้าร้านอาหารกลางเมืองอ่างทอง วอนผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำตำรวจ หลังฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดถูกถอดหายปริศนา ด้านผู้ว่าฯ อ่างทอง เตรียมสั่งปิดร้าน 5 ปี


ช่วงกลางดึกวานนี้ (29 ส.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งริมถนนสายเลี่ยงเมืองอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง ตำรวจจึงนำกำลังไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือ นายประเสริฐ เสวก หรือนายต้อย อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร ถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา นายธีรพล ทวีสุข หรือแบงค์ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้อง นายสมหุย ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่ขา นายปุ้ย ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่ลำตัว และนายธีรศักดิ์ ทวีสุข หรือบิ๊ก อายุ 32 ปี ถูกยิงที่ต้นขาซ้าย แต่กระสุนติดโทรศัพท์มือถือ จึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยวีอาร์อ่างทองจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง เบื้องต้นนายประเสริฐเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าร้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก บริเวณริมถนนพบอาวุธปืนซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวเพ็ญ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังนั่งดื่มกินกับเพื่อนอยู่ที่ร้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงดังโวยวายบริเวณใกล้ทางเข้าร้าน และมีกลุ่มชายหลายคนเดินออกมาหน้าร้าน หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหลายนัด นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในร้านต่างวิ่งหลบหนีกันกระเจิง เพื่อหลบกระสุนปืน โดยตนเองวิ่งไปหลบอยู่หลังร้าน เมื่อสิ้นเสียงปืนปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่หน้าร้านหลายคน


นายบิ๊ก หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกว่านายประเสริฐ หรือนายต้อย มาเที่ยวที่ร้าน โดยขับรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู มากับเพื่อน 3 คน จนกระทั่งตอนดึกใกล้ร้านปิดและโวยวายเสียงดัง อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันบริเวณด้านหน้าร้าน และได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด กระทั่งเสียงปืนสงบลง ตนเองรู้สึกเจ็บต้นขาซ้าย จึงก้มดูพบว่าถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา แต่กระสุนติดโทรศัพท์มือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง จึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนนายแบงค์ นายปุ้ย และนายสมหุย เป็นเด็กที่ร้าน ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง

ขณะที่นายประเสริฐ หลังสิ้นเสียงปืนพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ราวนมขวา นอนหายใจรวยรินอยู่ริมถนนห่างจากหน้าร้านประมาณ 30 เมตร โดยตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แต่นายต้อยเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางสาวพัชรา คุ้มมงคล อายุ 29 ปี ภรรยาของนายประเสริฐ ซึ่งอุ้มท้อง 9 เดือน เดินทางมาที่โรงพยาบาลอ่างทองถึงกับช็อก เมื่อทราบข่าวว่าสามีเสียชีวิต โดยบอกว่าตนเองกับนายประเสริฐทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 6 ขวบ และกำลังจะคลอดลูกคนที่ 2 เดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุด และนายประเสริฐออกมาเที่ยวกับเพื่อน ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแจ้งว่านายประเสริฐถูกยิง


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในบริเวณร้านดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ปรากฏว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ภายในร้านหลายจุด แต่เมื่อขอความร่วมมือตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าเด็กที่อยู่ภายในร้านอ้างว่าไม่มีรหัสเข้า เมื่อตรวจสอบเครื่องบันทึกพบว่าฮาร์ดดิสก์หายไป คาดว่าจะโดนถอดออกไปหลังเกิดเหตุ จึงเตรียมเรียกพยานที่อยู่ในร้านทั้งหมดมาสอบสวนหาสาเหตุการยิงกันในครั้งนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนางสาวณัฐธิดา จิตรรักษ์ อายุ 22 ปี บุตรสาวของภรรยาเก่าของนายประเสริฐ ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ และพูดคุยกับนางสาวพัชรา คุ้มมงคล ภรรยาคนปัจจุบันของนายประเสริฐ ถึงกรณีดังกล่าว นางสาวณัฐธิดา เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งเมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ขณะไปอบรมอยู่ต่างจังหวัด จึงเร่งเดินทางกลับมา ส่วนตัวอยากขอความเป็นธรรม และอยากให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ รวมถึงเพื่อนพ่อที่เดินทางไปเที่ยวด้วยกันและหายตัวไปหลังเกิดเหตุเข้าให้ปากคำกับตำรวจ รวมถึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามกล้องวงจรปิดที่ทราบข่าวว่าฮาร์ดดิสก์หายไป เพราะจะเป็นพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไร ซึ่งพ่อของตนเสียชีวิตไปแล้วคงพูดอะไรไม่ได้ จึงอยากจะขอให้ช่วยเหลือด้วย

นางสาวพัชรา คุ้มมงคล ภรรยาของนายประเสริฐ ซึ่งตั้งครรภ์ 9 เดือน บกว่าเท่าที่ได้ยินกลุ่มวัยรุ่นกันคือสามีของตนถูกล็อกออกมายิงข้างนอกร้าน แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน จึงอยากได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำมาเป็นหลักฐาน อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามฮาร์ดิสก์กล้องวงจรปิดของทางร้านที่หายไป ก่อนจะโดนทำลายหลักฐาน ส่วนศพของนายประเสริฐ เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร เพื่อผ่าพิสูจน์ในวันนี้

ด้าน พล.ต.ต.สังวาลย์ ฤกษ์ศรีลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง สั่งชุดสืบสวนเร่งติดตามกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบว่ามีใครที่อยู่ในเหตุการณ์บ้าง และใครเป็นผู้ก่อเหตุยิง ทั้งนายประเสริฐและกลุ่มเจ้าของร้าน เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ขณะที่นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เตรียมใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อย สั่งปิดร้านที่เกิดเหตุเบื้องต้นเป็นเวลา 5 ปี และเตรียมรอรายงานจากตำรวจและฝ่ายปกครอง หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในข้อหาอื่นๆ ก็จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก