ลูกสาวชายถูกยิงดับหน้าร้านอาหารอ่างทอง วอนผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำ ตร.

อ่างทอง 30 ส.ค. – ลูกสาวของชายถูกยิงเสียชีวิตหน้าร้านอาหารกลางเมืองอ่างทอง วอนผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำตำรวจ หลังฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดถูกถอดหายปริศนา ด้านผู้ว่าฯ อ่างทอง เตรียมสั่งปิดร้าน 5 ปี


ช่วงกลางดึกวานนี้ (29 ส.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งริมถนนสายเลี่ยงเมืองอ่างทอง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง ตำรวจจึงนำกำลังไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือ นายประเสริฐ เสวก หรือนายต้อย อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร ถูกยิงเข้าที่ราวนมขวา นายธีรพล ทวีสุข หรือแบงค์ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าที่ท้อง นายสมหุย ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่ขา นายปุ้ย ไม่ทราบนามสกุล ถูกยิงที่ลำตัว และนายธีรศักดิ์ ทวีสุข หรือบิ๊ก อายุ 32 ปี ถูกยิงที่ต้นขาซ้าย แต่กระสุนติดโทรศัพท์มือถือ จึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยวีอาร์อ่างทองจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง เบื้องต้นนายประเสริฐเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าร้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 5 ปลอก บริเวณริมถนนพบอาวุธปืนซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นางสาวเพ็ญ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังนั่งดื่มกินกับเพื่อนอยู่ที่ร้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงดังโวยวายบริเวณใกล้ทางเข้าร้าน และมีกลุ่มชายหลายคนเดินออกมาหน้าร้าน หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหลายนัด นักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในร้านต่างวิ่งหลบหนีกันกระเจิง เพื่อหลบกระสุนปืน โดยตนเองวิ่งไปหลบอยู่หลังร้าน เมื่อสิ้นเสียงปืนปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่หน้าร้านหลายคน


นายบิ๊ก หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ บอกว่านายประเสริฐ หรือนายต้อย มาเที่ยวที่ร้าน โดยขับรถกระบะโตโยต้า 4 ประตู มากับเพื่อน 3 คน จนกระทั่งตอนดึกใกล้ร้านปิดและโวยวายเสียงดัง อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันบริเวณด้านหน้าร้าน และได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด กระทั่งเสียงปืนสงบลง ตนเองรู้สึกเจ็บต้นขาซ้าย จึงก้มดูพบว่าถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา แต่กระสุนติดโทรศัพท์มือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง จึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วนนายแบงค์ นายปุ้ย และนายสมหุย เป็นเด็กที่ร้าน ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง

ขณะที่นายประเสริฐ หลังสิ้นเสียงปืนพบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ราวนมขวา นอนหายใจรวยรินอยู่ริมถนนห่างจากหน้าร้านประมาณ 30 เมตร โดยตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แต่นายต้อยเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางสาวพัชรา คุ้มมงคล อายุ 29 ปี ภรรยาของนายประเสริฐ ซึ่งอุ้มท้อง 9 เดือน เดินทางมาที่โรงพยาบาลอ่างทองถึงกับช็อก เมื่อทราบข่าวว่าสามีเสียชีวิต โดยบอกว่าตนเองกับนายประเสริฐทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 6 ขวบ และกำลังจะคลอดลูกคนที่ 2 เดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุด และนายประเสริฐออกมาเที่ยวกับเพื่อน ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลแจ้งว่านายประเสริฐถูกยิง


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในบริเวณร้านดังกล่าว ซึ่งเปิดเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ปรากฏว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ภายในร้านหลายจุด แต่เมื่อขอความร่วมมือตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าเด็กที่อยู่ภายในร้านอ้างว่าไม่มีรหัสเข้า เมื่อตรวจสอบเครื่องบันทึกพบว่าฮาร์ดดิสก์หายไป คาดว่าจะโดนถอดออกไปหลังเกิดเหตุ จึงเตรียมเรียกพยานที่อยู่ในร้านทั้งหมดมาสอบสวนหาสาเหตุการยิงกันในครั้งนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนางสาวณัฐธิดา จิตรรักษ์ อายุ 22 ปี บุตรสาวของภรรยาเก่าของนายประเสริฐ ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ และพูดคุยกับนางสาวพัชรา คุ้มมงคล ภรรยาคนปัจจุบันของนายประเสริฐ ถึงกรณีดังกล่าว นางสาวณัฐธิดา เปิดเผยว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งเมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ขณะไปอบรมอยู่ต่างจังหวัด จึงเร่งเดินทางกลับมา ส่วนตัวอยากขอความเป็นธรรม และอยากให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ รวมถึงเพื่อนพ่อที่เดินทางไปเที่ยวด้วยกันและหายตัวไปหลังเกิดเหตุเข้าให้ปากคำกับตำรวจ รวมถึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามกล้องวงจรปิดที่ทราบข่าวว่าฮาร์ดดิสก์หายไป เพราะจะเป็นพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่าเหตุการณ์เป็นเช่นไร ซึ่งพ่อของตนเสียชีวิตไปแล้วคงพูดอะไรไม่ได้ จึงอยากจะขอให้ช่วยเหลือด้วย

นางสาวพัชรา คุ้มมงคล ภรรยาของนายประเสริฐ ซึ่งตั้งครรภ์ 9 เดือน บกว่าเท่าที่ได้ยินกลุ่มวัยรุ่นกันคือสามีของตนถูกล็อกออกมายิงข้างนอกร้าน แต่ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน จึงอยากได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำมาเป็นหลักฐาน อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามฮาร์ดิสก์กล้องวงจรปิดของทางร้านที่หายไป ก่อนจะโดนทำลายหลักฐาน ส่วนศพของนายประเสริฐ เจ้าหน้าที่นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร เพื่อผ่าพิสูจน์ในวันนี้

ด้าน พล.ต.ต.สังวาลย์ ฤกษ์ศรีลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง สั่งชุดสืบสวนเร่งติดตามกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบว่ามีใครที่อยู่ในเหตุการณ์บ้าง และใครเป็นผู้ก่อเหตุยิง ทั้งนายประเสริฐและกลุ่มเจ้าของร้าน เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ขณะที่นายเรวัต ประสงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เตรียมใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อย สั่งปิดร้านที่เกิดเหตุเบื้องต้นเป็นเวลา 5 ปี และเตรียมรอรายงานจากตำรวจและฝ่ายปกครอง หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายในข้อหาอื่นๆ ก็จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]