พิษณุโลก 28 ส.ค. – เจ้าอาวาสวัดดังใน จ.พิษณุโลก สึกและหลบหนีไปแล้ว หลังมีคลิปแฉเสพเมถุนกับชายวัยรุ่นถถูกแชร์ในโลกโซเชียล ด้านชาวบ้านยังคงศรัทธา เผยเจ้าอาวาสเป็นพระที่ปฏิบัติดี สร้างศาสนสถานของวัดให้เจริญรุ่งเรือง
ความคืบหน้าหลังมีคลิปฉาวเจ้าอาวาสวัดดังใน จ.พิษณุโลก กำลังเสพเมถุนกับหนุ่มวัยรุ่นผู้ชาย 2 คน อยู่ภายในห้องเก็บของในวัดแห่งหนึ่ง พร้อมทั้งจ่ายเงินค่าซื้อบริการ ก่อนจะเรียกรถโดยสารรับจ้างให้มารับที่หน้าวัด ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อในโลกโซเชียลจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมต่อหลักพระธรรมวินัยของสงฆ์ ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลกได้ประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคลิปที่เกิดขึ้นแล้วอย่างเร่งด่วน
ล่าสุดเช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดในคลิปฉาว มีพระลูกวัดกำลังช่วยกันกวาดลานวัดอยู่จำนวนหนึ่ง โดยที่กุฏิเจ้าอาวาสยังปิดเงียบ ไม่มีใครเข้าออก สอบถามพระลูกวัดทราบเพียงว่าก่อนจะเป็นข่าวดัง เจ้าอาวาสได้ประกอบพิธีทางศาสนาตามปกติ แต่หลังจากมีการแฉคลิปออกมา เจ้าอาวาสได้ให้ลูกศิษย์พาหลบออกไปจากวัดในทันที และกลับเข้ามาภายในวัดอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับชายฉกรรจ์ 2 คน มาขนของออกจากกุฏิไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อพูดคุยกับเจ้าอาวาสได้อีก
นอกจากนี้พระต่างวัดที่เดินทางมาร่วมศาสนพิธีของวัดในวันนี้ กล่าวอ้างว่าล่าสุดเจ้าอาวาสได้ลาสิกขา หรือสึกจากเพศบรรพชิต แล้วเมื่อช่วงเย็นวานนี้ แต่ต้องให้พระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกออกมาชี้แจงตามมติของคณะสงฆ์อีกครั้ง
ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด กล่าวว่า คลิปฉาวของเจ้าอาวาสที่ปรากฏออกมานั้นยังไม่เชื่อทั้งหมด เจ้าอาวาสน่าจะถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดี เพราะชาวบ้านต่างทราบดีว่าเจ้าอาวาสเป็นพระที่ปฏิบัติดี สร้างศาสนสถานของวัดให้เจริญรุ่งเรือง มีพุทธศาสนิกชนแวะเวียนมาที่วัดเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังคงศรัทธาในตัวเจ้าอาวาสอยู่ แต่อยากให้เจ้าอาวาสกลับมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้พ้นข้อครหาต่างๆ ส่วนประเด็นชายที่อยู่ในคลิปคาดว่าน่าจะเป็นลูกศิษย์ผู้ชาย เพราะเจ้าอาวาสก็มีลูกศิษย์ผู้ชายคอยปรนนิบัติรับใช้เยอะ ถ้าคลิปที่ออกมาเป็นสีกาคงเชื่อ แต่นี่เป็นผู้ชายแท้ๆ น่าจะมีการแอบถ่ายจากผู้ไม่หวังดีอย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงจะมีการแถลงข่าวให้สื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย