ระยอง 13 ส.ค.-รวบผู้ต้องหาแทงเจ้าของร้านชำดับ อ้างโมโหผู้ตายไม่ยอมให้ติดค่าน้ำมัน และด่าทอว่าไม่หางานทำ หลังโดนโรงงานผลิตแอร์เลิกจ้าง
กรณีที่นายชูชาติ ประคำ หรือ อ้น อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์นายยุทธพงษ์ พลกุล อายุ 64 ปี เจ้าของร้านขายของชำ และทำร้ายนางทองอยู่ สุวรรณ์ อายุ 58 ปี บาดเจ็บสาหัส ที่ร้านขายของชำ ในชุมชนบ่อนไก่-โรงไฟฟ้าย่อย ถนนชายกระป่อม 1 เขตเทศบาลนครระยอง เมื่อวานนี้ (12 ส.ค.63)
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองระยอง พร้อมทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย โดยรวบรวมพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามคนร้าย จนสืบทราบว่าคนร้ายก่อเหตุคือนายชูชาติ ประคำ จึงได้บุกเข้ารวบตัวได้ในห้องพักของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเขตตำบลน้ำคอก อำเภอเมือง จังหวัดระยอง คุมตัวมาสอบปากคำจนเปิดปากสารภาพ จากนั้นจึงคุมตัวไปตรวจยึดของกลาง มีเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อก อาวุธมีด และเงินสด 500 บาท ที่ชิงไปจากนายยุทธพงษ์ เจ้าของร้านขายของชำ
มูลเหตุจูงใจที่ทำให้ผู้ต้องหาตัดสินใจก่อเหตุขึ้น เพราะขี่รถจักรยานยนต์ไปเติมน้ำมันขวดที่ร้านขายของชำ แต่ไม่มีเงิน จึงเอ่ยปากขอติดค้างค่าน้ำมันไว้ก่อน แต่ปรากฏว่า นายยุทธพงษ์ เจ้าของร้านชำไม่ยอมให้ติดเงิน แถมยังถูกนายยุทธพงษ์ ด่าทอว่าไม่หางานทำ พร้อมปาถุงมะม่วงใส่ไล่ตะเพิดออกจากร้าน ด้วยความโมโหและบันดาลโทสะ จึงคว้ามีดปลายแหลมปลอกมะม่วงยาวประมาณ 5 นิ้ว ที่ติดมากับถุงมะม่วงที่นายยุทธพงษ์ ปาเข้าใส่ จ้วงแทงนายยุทธพงษ์ แบบไม่ยั้งมือนับสิบแผล จังหวะนั้นนางทองอยู่ ซึ่งเป็นน้องภรรยาของนายยุทธพงษ์ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของนายยุทธพงษ์ จึงเข้ามาดู จึงได้จ้วงแทงนางทองอยู่ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ก่อนหยิบเอาเงินสดจากกระเป๋าสะพายที่นายยุทธพงษ์ สะพายอยู่และในลิ้นชักโต๊ะในร้าน ขี่รถจักรยานยนต์หนีไปหลบอยู่ในอพาร์ตเมนต์ และกำลังจะเตรียมหลบหนีต่อ แต่ถูกตำรวจสืบสวนบุกรวบตัวได้เสียก่อน
ทั้งนี้พลตำรวจโท มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า การก่อเหตุของผู้ต้องหา เกิดจากความโมโหและบันดาลโทสะที่ถูกเจ้าของร้านขายของชำด่า ประกอบกับความเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจถูกเลิกจ้างออกจากงาน ซึ่งก่อนนี้ผู้ต้องหาทำงานอยู่ในโรงงานผลิตแอร์ยี่ห้อหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ปลวกแดง
อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าว พนักงานสอบสวนมีกำหนดจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำประกอบคำรับสารภาพยังที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากมีชาวบ้านในชุมชนรวมทั้งญาติพี่น้องของผู้ตายจำนวนหลายร้อยคนมาดักรอการทำแผน พนักงานสอบสวน จึงยกเลิกการทำแผนแบบกะทันหัน เพราะเกรงผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์.-สำนักข่าวไทย