fbpx

หัวอกแม่ วอนจับลูกติดยา ทำร้ายร่างกาย

ตรัง 13 ส.ค.-แม่น้ำตาซึม วอนตำรวจ-หน่วยงานรัฐจับลูกชายในไส้ ที่ตกเป็นทาสยาเสพติดจนคลุ้มคลั่ง พกมีดอาละวาด ทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้ารายวัน แถมยังถูกไล่ออกจากบ้าน

นางบุญราย จันบุญแก้ว เล่าถึงพฤติกรรมของนายกิตติชัย ชัยเพชร อายุ 27 ปี ลูกชายแท้ๆ ที่ตกเป็นทาสยาเสพติด ทั้งยาบ้า กัญชา และดื่มสุรา จนมีอาการคลุ้มคลั่งและอาละวาดทำร้ายแม่ ญาติพี่น้อง รวมทั้งชาวบ้านในหมู่บ้านมานานกว่า 10 ปี โดยที่ตำรวจและผู้นำชุมชน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่างนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกต้องมีหลักฐานก่อนจึงจะดำเนินคดีได้ ทำให้คนในบ้านและชาวบ้านต่างอยู่กันอย่างหวาดกลัว เพราะส่วนใหญ่เป็นหญิงล้วน ตอนยังเล็ก เคยพานายกิตติชัยไปบำบัดแล้ว แต่ก็หนีกลับออกมา และมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ซ้ำติดยาเสพติดทุกชนิดหนักขึ้น จึงสุดทนต่อไป เนื่องจากลูกชายมีพฤติกรรมรุนแรงขึ้นทุกวัน เมื่อก่อนเคยอาศัยอยู่ในบ้านพื้นที่ หมู่ 5 บ้านด่าน ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง แต่เมื่อ 5-6 ปีก่อน ก็ถูกลูกชายไล่ออกจากบ้าน จนต้องมาอาศัยอยู่กับแม่ ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าๆ ที่อยู่ติดกัน ที่ผ่านมาถูกทำร้ายจนนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งโดนเตะ โดนขวดแก้วปาใส่ ไม้หน้าสามตีแข้งจนเดินไม่ด้หลายวัน หนักสุดถึงขั้นใช้มีดไล่แทงจนบาดเจ็บ ต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ต้องทนมาตลอด เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำตัวไปรักษา ไม่อยากให้อยู่บ้าน เพราะไม่สบายใจ แม้จะเป็นห่วง และรักลูกก็ตาม


น.ส.อุรารัตน์ พรมลี หลานสะใภ้นางบุญรายบอกว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค.นางบุญรายโทรมาหา บอกว่า นายกิตติชัย ทำร้ายร่างกายแม่และยาย อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง เพราะมาขอเงินไปซื้อยาเสพติดแต่ไม่ให้ จึงใช้มีดข่มขู่ จนทุกคนในบ้านต้องมาแอบอยู่บ้านพี่สาวที่อยู่ใกล้กันก่อน ใจจริงไม่อยากให้ติดคุก แต่อยากให้พาไปบำบัดรักษาจนหายดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย