ภูเก็ต 3 ส.ค.-อิทธิพลจากพายุโซนร้อนซินลากู ส่งผลให้เกิดคลื่นลมแรงในทะเลฝั่งอันดามัน ได้พัดขยะจำนวนมากถูกมากองเต็มชายหาดต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เจ้าหน้าที่ต้องเข้าเก็บกวาดเร่งด่วน
หลังพายุโซนร้อน ซินลากุ เคลื่อนผ่านประเทศเวียดนามและลาว ส่งผลให้ทุกภาคมีฝนตกหนักและเกิดคลื่นลมแรงทางทะเลฝั่งอันดามันโดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คลื่นลมแรงในทะเล ได้พัดพา ซัดขยะ ในทะเลขยะมากองบนชายหาดเป็นจำนวนมาก อย่างที่ชายหาดกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีขยะถูกคลื่นชัดขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งในช่วงมรสุมปกติจะมีขยะ หรือที่เรียกว่าขยะมรสุมมักมีไม่มาก แต่ครั้งนี้มีมากจนผิดปกติ ทำให้ชาวบ้านต่างมาดูและเก็บขยะบางชิ้นที่อยู่ในสภาพดี พอจะนำไปขายได้ เช่น ถังพลาสติก ลังพลาสติก ขวดน้ำ ทุ่นอวน เชือก นอกจากนี้ยังมีขอนไม้ ขวดน้ำพลาสติก ถุงพลาสติก และเศษขยะอื่นๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อบต.กมลาเร่งพื้นที่เก็บกวาด เช่นเดียวกันกับ ชายหาดป่าตอง ได้มีเศษขยะถูกคลื่นซัดขึ้นมาเช่นกัน ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ข้อมูลสภาพอากาศ
ส่วนที่ชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แห่ไปเก็บเปลือกหอยและหอยหลากชนิดที่ถูกคลื่นซัดมายังฝั่ง อย่าง หอยแมลงภู่ หอยตลับ หอยจอบ หลายคนรู้ข่าวจากโซเซียล ก็รีบมาดู พบมีหอยจำนวนมาก เลยเก็บนำไปปรุงอาหารหลากหลายเมนู ทั้ง ลวกจิ้ม ผัดพริก ผัดกระเพรา หอยทอด หรือ แม้แต่เมนูหอยดอง บางคนมาเก็บตั้งแต่เช้าได้หอยไปเป็นถังขนาดใหญ่ เหลือจากกินก็นำไปขาย
ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ช่วงนี้คลื่นลมแรง หอยบางส่วนที่อ่อนแออาจหลุดลอยมารวมกัน หรือ อาจมีเหตุการณ์แพแตกหอยหลุด ฯลฯ และ ปรากฏการณ์ดังกล่าวแม้ไม่เป็นเรื่องปกติในธรรมชาติ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ภัยพิบัติ เช่น สึนามิ แผ่นดินไหว พร้อมเตือนด้วยว่าการเก็บหอยมากิน ขึ้นอยู่กับการพิจารณา แต่ระวังหอยตายไม่สด อาจมีเชื้อโรคได้
ด้าน เชียงใหม่ หลังฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากตัดขาดถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย บริเวณ กม.33 หมู่บ้านแม่หวาน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด หลายช่วงมาเป็นวันที่ 2 รถทุกชนิดยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้ผู้คนที่ขับรถอยู่ระหว่างทางกว่า 2 ร้อยคนต้องตกค้างอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกและสายไฟ โยนข้ามกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยวหลากลงลำน้ำแม่กวง แล้วใช้ตะขอเหล็กเกี่ยวข้าวกล่องและน้ำดื่ม ข้ามไปยังอีกฟากของถนน ไปส่งให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว กว่า 60คน ที่ตกค้าง พร้อมจัดให้พักที่อุทยานแม่ตะใคร้และโรงเรียนบ้านปางแฟน เพื่อรอการซ่อมทาง แต่บางส่วนที่ทนรอไม่ไหวจอดรถทิ้งไว้และเดินข้ามดอยมา.-สำนักข่าวไทย