หนุ่มกรีดยางสะดุ้ง! เจองูเหลือมยาว 4 เมตรนอนอ้าปากกลางถนน

ตรัง 1 ส.ค.- หนุ่มกรีดยางช็อก! เจองูเหลือมความยาว 4 เมตร นอนอ้าปากรอเหยื่ออยู่กลางถนนหน้าบ้าน จึงแจ้งกู้ภัยกลุ่มสามัคคีรวมใจฯ เข้าจับด้วยมือเปล่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับยังอ้าปากอยู่ตลอดเวลา ส่วนชาวบ้านแห่ตีเลขเด็ดรับวันหวยออก


เวลาประมาณตี 2 ที่หน้าบ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายธนวัฒน์ วรรณา อายุ 35 ปีอาชีพกรีดยางพารา ได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกลุ่มสามัคคีรวมใจอาสาพาบุญ อ.ย่านตาขาว จ.ตรังว่า มีงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยมานอนอ้าปากอยู่บนถนนหน้าบ้าน เมื่อนายวุฒิชัย พรเพิ่มสุข หัวหน้าชุดพิทักษ์งู กลุ่มสามัคคีรวมใจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปถึง งูเหลือมตัวนี้ก็ยังคงอ้าปากกว้างอยู่เหมือนเดิม และไม่มีท่าทางดุร้าย

เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปจับงูเหลือมด้วยมือเปล่า เนื่องจากผ่านการจับงูมาแล้วนับร้อยตัว โดยใช้เวลาแค่ 3 นาทีก็สามารถจับงูเหลือมได้อย่างง่ายดาย และเมื่อวัดความยาวได้ 4 เมตร น้ำหนักประมาณ 10-12 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วก็เคยมีงูเหลือมตัวใหญ่มานอนเล่นอยู่บนถนน ห่างจากจุดนี้ไม่มากนัก แต่ที่ไม่พลาดคือการแห่ตีเลขเด็ดทั้งบ้านเลขที่ของเจ้าของบ้าน ความยาว น้ำหนักตัว และเลขทะเบียนรถของเจ้าหน้าที่กู้ภัย


ด้านนายธนวัฒน์ วรรณา ผู้เจองูเหลือมคนแรก เล่าว่าได้ยินเสียงหมาเห่าหน้าบ้าน ได้นำไฟฉายกรีดยางมาส่องดู เมื่อเห็นเป็นงูเหลือมตัวใหญ่เลื้อยขึ้นมาบนถนนและนอนอ้าปากอยู่ จึงรีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยอีกกลุ่ม แต่ไม่มีใครมา กระทั่งมีกู้ภัยกลุ่มสามัคคีรวมใจ เดินทางมาจึงได้จับไปปล่อยคืนสู่ป่า โดยงูเหลือมที่พบตัวนี้นับเป็นตัวที่ 2 ในรอบ 1 เดือน ขณะที่เจ้าหน้าที่คาดหลังฝนตกหนักงูเหลือมคงจะออกมาหากินกบ อึ่งอ่าง และสัตว์ชนิดอื่นที่มาตามแสงไฟฟ้า

ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านจากทั่วสารทิศ ทั้งในจังหวัดสุรินทร์และต่างจังหวัด ต่างพากันเดินทางมาเพื่อขอโชคลาภและหวยจอมปลวกที่ขึ้นบนหลักกิโลเมตร บรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวันรถจอดยาวเหยียดนับกิโลเมตร ซึ่งหลักกิโลเมตรดังกล่าวสร้างความฮือฮามาแล้วให้หวยชาวบ้านถูกมาแล้วกว่า 10 งวด จอมปลวกบนหลักกิโลเมตรดังกล่าวตั้งอยู่ถนนระหว่างบ้านหนองหิน-บ้านตรึม ตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นหลักกิโลเมตรมีข้อความด้านข้างแยกทางหลวง บอกระยะทาง มีตัวเลข 226, 7 และ 8 ในขณะที่จอมปลวกอยู่ด้านบนมีผู้นำแป้งมาทาเพื่อดูตัวเลข รวมไปถึงฐานของหลักกิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านที่มาเฝ้าดูก็ขอร้องไม่ให้ผู้ที่มาขอโชคลาภอย่าได้สัมผัส และนำแป้งไปทาอีก เพื่อไม่ทำให้จอมปลวกเสียหาย

ชาวบ้านบอกว่า เรื่องของโชคลาภเป็นดวงขอแต่ละคนแล้วแต่ว่าใครจะโชคดี ที่ผ่านมามีผู้ถูกหวยจากจอมปลวกที่ขึ้นบนหลักกิโลเมตรแห่งนี้แล้ว 19 งวดติดต่อกัน จึงมีผู้คนต่างพากันเดินทางมาเพื่อขอหวยเป็นจำนวนมาก ก่อนวันหวยออกเช่นเดียวกันกับชาวบ้านตรึม อีกคน บอกว่าตนเห็นชัดตัวเลข ก่อนที่จะนำแป้งมาทา ก็อยู่ที่ดวงของแต่ละคน งวดที่ผ่านมามีผู้ถูกรางวัลที่ 1 มาแล้ว


ส่วนพื้นที่หมู่ 4 ตำบลยายแพง อำเภอบางคนที ได้มีชาวบ้านใกล้เคียงมารวมตัวกัน เพื่อกราบไหว้ขอเลขเด็ดจากต้นมะพร้าว สูงประมาณ 20 เมตร มีลักษณะแตกยอดออกไปจำนวน 9 ยอดขึ้นสูงเด่นตระหง่านอยู่กลางสวนมะพร้าว สร้างความแปลกประหลาดให้กับผู้พบเห็น โดยชาวบ้านส่วนใหญ่จุดธูปขอเลขเด็ด บางรายนำแป้งมาขัดถู บางรายก็นับยอด บางคนก็ขัดได้เลข 1, 0 ตามความเชื่อของตนเอง นางจาน สุดแสง อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 ตำบลยางแพง อำเภอบางคนที เจ้าของต้นมะพร้าวเล่าว่า มะพร้าวต้นนี้ปลูกตั้งแต่ปี 2517 ตอนแรกก็มียอดเดียว แต่มา 6 ปีให้หลังยอดได้แตกออกเป็น 2 ยอด จู่ๆ ก็แยกยอดเป็น 7 ยอด ไม่นานยอดบางส่วนก็หักไป และแตกมาใหม่เป็น 13 ยอด กระทั่งปัจจุบันหักเหลือ 9 ยอด

ส่วนตัวเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ เพราะอดีตเคยเผาถ่านใกล้มะพร้าวต้นนี้ จู่ๆ ก็เดินไม่ได้ พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ รักษายังไงก็ไม่หาย จึงไปให้พระที่จังหวัดกาญจนบุรี เคารพดูดวงให้ และแนะนำให้มาจุดธูปขอขมา จึงกลับมาขอขมาเลิกเผาถ่าน จู่ๆ อาการดังกล่าวก็หายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ต่อมาปี 2558 มีคนในจังหวัดทางภาคใต้มาขอซื้อมะพร้าวต้นนี้ในราคา 100,000 บาท เพื่อล้อมกลับไปปลูก แต่ตนก็ไม่ขาย เพราะตนเป็นคนปลูกก็เปรียบเสมือนชีวิตของตน

ส่วนชาวบ้านที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พบคางคกประหลาดมีปานสีแดงที่หัว มีลวดลายสีดำที่ใต้ท้อง มาร้องอ๊อกๆ ที่หน้าบ้าน เจ้าของบ้านจับมาดูมองเห็นเป็นเลข 53 จึงนำไปซื้อลอตเตอรี่และปล่อยคางคกไป ปรากฏว่าถูกเลขท้าย 2 ตัว จนชาวบ้านพากันฮือฮาและแห่มาดู เนื่องจากคางคกตัวดังกล่าวกลับมาให้โชคที่บ้านหลังเดิมอีก

นายเอกลักษ์ สีตก อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 9 บ้านสันติสุข ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี พาผู้สื่อข่าวไปดูคางคกตัวดังกล่าว พบว่ามีชาวบ้านหลายรายที่ทราบข่าวต่างก็เดินทางมาดูเช่นเดียวกัน โดยคางคกประหลาดมีขนาดประมาณเท่ากำปั้น โดยที่หัวมีสีแดงคล้ายปาน และที่ใต้ท้องมีลวดลายสีดำ โดยเมื่อชาวบ้านได้ช่วยกันเพ่งดูต่างก็มองเป็นตัวเลขต่างๆ ก่อนหน้านี้ เคยถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว หลังจากนั้นจึงได้ปล่อยไป กระทั่งไม่กี่วันมานี้ มีคางคกที่มีสีแดงคล้ายปานที่บนหัวซึ่งตนคิดว่าต้องเป็นคางคกตัวเดียวกัน และมาให้โชคอีกครั้ง จึงได้จับใส่ตะกร้าไว้ และเมื่อชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็พากันมาขอดู ตัวเลขนำไปซื้อเพื่อหวังเสี่ยงโชค แต่อยากจะบอกว่าเป็นโชคของแต่ละคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]