ตาก 28 ก.ค. – แม้จะเป็นช่วงกลางฤดูฝน แต่หน่วยปฎิฏิบัติการฝนหลวงที่จังหวัดตาก ยังคงทำภารกิจฝนหลวงต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ขณะที่เขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญช่วยหล่อเลี้ยงในพื้นที่ มีปริมาณน้ำเก็บกักเหลือไม่ถึง 10%
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก นำเครื่องบิน CASA บรรทุกสารฝนหลวงขึ้นโจมตีกลุ่มเมฆบริเวณผืนป่าเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จนถึงพื้นที่ลุ่มน้ำปิงด้านท้ายเขื่อน หวังให้เกิดฝนตกในพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 อำเภอ ที่กำลังประสบความแห้งแล้งจากภาวะฝนทิ้งช่วง เป็นปฏิบัติการที่เกิดขึ้นกลางฤดูฝน หลังน้ำในเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงพื้นที่ มีปริมาณเก็บกักเหลือไม่ถึง 10%
แม้ความชื้นในฤดูฝนจะก่อให้เกิดเมฆฝนได้ง่าย แต่กำลังลมแรง ทำให้เมฆที่ก่อตัวสลายลงอย่างรวดเร็ว ปฏิบัติการฝนหลวงกลางฤดูฝนที่กินเวลาต่อเนื่องเกือบ 2 เดือน จึงทำได้เพียงการสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า เกิดฝนตกกระจายช่วยลดความแห้งแล้งได้บ้าง แต่ปริมาณฝนที่ตกยังไม่มากพอที่จะช่วยเติมน้ำเข้าเขื่อน
ภัยแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงกลางฤดูฝน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลูกข้าวนาปี วันนี้ชาวนาในอำเภอเมืองตากไม่มีทั้งน้ำฝนธรรมชาติและน้ำจากเขื่อน ฝนหลวงจึงเป็นความหวังเดียวที่พวกเขารอคอยตลอดฤดูทำนา
สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดตาก รายงานว่า พื้นที่การเกษตรทั้งจังหวัดราว 1 ล้านไร่ ส่วนใหญ่เป็นนาข้าวและพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ประสบภัยแล้งรุนแรงตั้งแต่ต้นปี ทุกอำเภอร้องขอฝนหลวง ซึ่งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงยังคงทำภารกิจในจังหวัดตากต่อเนื่องจนสิ้นฤดูฝนราวต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วยเหลือเกษตรกร. – สำนักข่าวไทย