สงขลา 28 ก.ค. – สาวร่ำไห้ถูกตำรวจจราจร สภ.เมืองสงขลา ยึดรถจักรยานยนต์ อ้อนวอนขอคืน อ้างจะกลับไปหาลูก ยอมรับอารมณ์ร้อนและพูดจาไม่ดี เพราะเป็นห่วงลูก ด้านตำรวจแจงยึดรถเพราะผิดหลายกระทง สุดท้ายลดค่าปรับให้เหลือ 200 บาท
นี่เป็นคลิปที่มีการเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ขณะหญิงสาวคนหนึ่งกำลังร้องไห้ อ้อนวอนขอรถจักรยานยนต์คืนจากตำรวจ สภ.เมืองสงขลา หลังเธอขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อก จึงถูกจับบริเวณสี่แยกวัดเลียบ จ.สงขลา แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จึงร้องขอรถคืน อ้างว่าจะไปรับลูกกับแม่ และจะไปเสียค่าปรับทีหลัง แต่ตำรวจจราจรไม่ยอม และได้ยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถตำรวจพาไปโรงพัก จนกลายเป็นประเด็นทางสังคมออนไลน์ที่มีการวิจารณ์ถึงการทำงานของตำรวจ
น.ส.พิชยา เกิดแสงสุริยงค์ อายุ 27 ปี ผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว เล่าว่า เหตุเกิดช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากตลาดนัดวันอาทิตย์ และถูกตำรวจจราจรขับตามหลังมาและเรียกตรวจ ถามว่ามี พ.ร.บ.หรือไม่ จึงบอกว่าไม่มี มีแต่เล่มเขียว ตำรวจจึงออกใบสั่งให้และยึดรถ ตนได้ขอร้องว่าอย่ายึดรถ เพราะต้องการจะไปหาลูกที่ขายของอยู่ในตลาดคนเดียว และจะไปเสียค่าปรับให้ทีหลัง เพราะห่วงลูก และตอนนี้ไม่ค่อยมีเงินด้วย แต่ตำรวจก็ไม่ยอม ตนจึงล็อกคอรถและพยายามเดินหนี เพราะทราบจากพี่สาวว่า หากถูกตำรวจจับก็อย่าให้กุญแจ และอย่าให้ยึดรถ พร้อมยอมรับว่ามีอารมณ์ และอาจพูดจาไม่ดี จนทำให้ตำรวจไม่พอใจ แต่ที่พูดไปก็เพราะต้องการรถคืน เพื่อจะขับไปหาลูกที่ตลาด เพราะตลาดใกล้เลิกแล้ว สุดท้ายเหตุการณ์นี้มีตำรวจอีกนายหนึ่งที่เป็นผู้กองพาคุย ซึ่งคุยดีมาก และเปรียบเทียบปรับให้เหลือแค่ 200 บาท ก่อนที่ตำรวจจะยกรถตนไปโรงพัก ส่วนตนเองก็นั่งรถจักรยานยนต์เพื่อนที่ขับผ่านมาไปหาลูกที่ตลาด กระทั่ง 10.00 น. เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) จึงไปเสียค่าปรับ และเอารถคืน
นายธนวัฒน์ ณ สงขลา ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิป น.ส.พิชยา เปิดเผยว่า ตอนที่ตำรวจจับ ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เห็นตอนที่น้องผู้หญิงคนนี้เดินร้องไห้มา บอกว่าถูกตำรวจจับรถและยึดรถไว้ ตนจึงพยายามไปช่วยเหลือ ขอให้ตำรวจคืนรถให้ เพราะคิดว่าตำรวจทำเกินไป น่าจะผ่อนปรนไม่ต้องถึงขั้นยึดรถ เพราะทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยบอกว่า กรณีแบบนี้ให้ตำรวจผ่อนปรน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสงขลา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว โดยสาเหตุที่ตำรวจต้องยึด เพราะมีความผิดหลายกระทง ทั้งไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ไม่พกสำเนาคู่มือประจำรถ ไม่มีเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี และอุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบ แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าตอนนั้น ผู้เสียหายอาจจะมีอารมณ์โมโห และไม่พอใจที่ถูกตำรวจยึดรถ ทำให้กลายเป็นเรื่องขึ้นมา หลังจากนี้จะสอบถามตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย. – สำนักข่าวไทย