สุโขทัย 29 ก.ค. – น้ำท่วมเขต อ.เมืองสุโขทัย คลี่คลาย ขณะที่ชุมชนบ้านเอื้ออาทร 400 หลังคาเรือน น้ำลดลงสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านหวั่นสะพานพระร่วงใจกลางเมืองพังทลาย เหตุน้ำดันจนโก่งตัว ขณะที่ดินสไลด์ปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้านี้ (29 ก.ค.) สถานการณ์น้ำท่วม จ.สุโขทัย ในเขตพื้นที่ อ.เมือง สองฝั่งริมแม่น้ำยมเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมสูงบางจุดในพื้นที่ลุ่มต่ำชุมชนคูหาสุวรรณ ชุมชนคลองโพธิ์ เขตเทศบาล ระดับน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร
ทั้งนี้ ผลพวงจากระดับน้ำที่ท่วมสูง ทำให้ผิวจราจรบนสะพานพระร่วง ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุโขทัย มีการโก่งตัว โยธาธิการจังหวัด และแขวงทางหลวงชนบท นำกระสอบทรายบิ๊กแบ็กล้อมพื้นผิวจราจรที่โกงตัว และจุดที่น้ำไหลซึมเข้าบนผิวจราจร และยืนยันสะพานยังแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี ไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนชุมชนบ้านเอื้ออาทร 400 หลังคาเรือน ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในหมู่บ้านกว่า 60 เซนติเมตร ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนและพื้นผิวจราจรอบหมู่บ้านที่ ยังคงมีน้ำท่วมขังเล็กน้อย เพื่อให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ชาวบ้านเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด
ขณะที่ จ.น่าน เช้านี้แม้ระดับน้ำท่วมในพื้นที่จะเริ่มลดลงแล้ว แต่ได้ทิ้งความเสียหายทั้งคราบดินโคลนและเศษซากสิ่งของไว้เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านในหลายพื้นที่ต้องเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนของตนเองอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ทั้งในเขตตัวเมืองน่าน รวมทั้งที่บ้านเมืองจัง หมู่ 2 หมู่ 4 หมู่ 6 และหมู่ 11 ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง ซึ่งอยู่อีกฟากของลำน้ำน่าน ตรงข้ามกับตัวเมืองน่าน ยังคงมีดินโคลนหนาเต็มพื้นที่
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านใน ต.นาปัง โดยเฉพาะบ้านน้ำลัด ยังประสบปัญหาหนักจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งน้ำท่วมสูงถึงชั้นสองของบ้าน ทำให้ข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าเสียหายจนหมดสิ้น บางครอบครัวต้องอาศัยอยู่ในบ้านที่เต็มไปด้วยโคลน สภาพความเป็นอยู่ยังลำบากอย่างมาก

ดินสไลด์ปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน
ส่วนที่ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ เกิดดินสไลด์ลงมาปิดทางสูงมากกว่า 5 เมตร ทำให้ชาวบ้านที่บ้านสะจุก สะเกี้ยง เปียงซ้อ ห้วยฟอง ถูกตัดขาด มีหลายชีวิตที่รอคอย ทั้งผู้ป่วย คนท้องแก่ใกล้คลอด และขาดแคลนอาหารสด
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสาต่างระดมกำลังกันเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขนย้ายโคลน การจัดตั้งโรงครัวทำอาหาร และน้ำดื่ม รวมถึงการกระจายสิ่งของจำเป็นไปยังจุดที่ยังเข้าไม่ถึง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังแจ้งเตือนประชาชนติดตามข่าวสารของจังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากต้องการความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในทุกมิติ.-สำนักข่าวไทย