11 ก.ค.- สำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดประเด็นร้อนเขย่าแวดวงพระพุทธศาสนา กรณีพัวพัน “สีกา ก.” ล่าสุดผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ลาสิกขาเป็นรูปที่ 6 แล้ว
ตามกันต่อกับเรื่องฉาวในวงการพุทธศาสนา หลังตำรวจสอบสวนกลาง เร่งขยายผลจากข้อมูลในโทรศัพท์ของสีกา ก. สาวคนสนิทอดีตเจ้าคุณอาชว์ โดยพบรูปภาพและคลิปลับสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระชั้นผู้ใหญ่วัดดังหลายรูป กว่า 80,000 ภาพ โดยพระชั้นผู้ใหญ่จากวัดดังต่างๆ ที่มีภาพในคลิปของสีกา ก. ขณะนี้ยืนยันตัวแล้วทั้งหมด 6 คน และได้ทำการสึกไปแล้ว 6 คน ประกอบด้วย
- พระเทพวชิรปาโมกข์ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ
- พระครูปลัดสุรพล อิทธิเตโช เจ้าอาวาสวัดพรหมเกษร
- พระเทพวชิวธีรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
- พระเทพวชิรธีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย พระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี พระลูกวัด วัดใหม่ (ยายแป้น)
- พระเทพปวรเมธี หรือ เจ้าคุณประสิทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
- พระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร
ผช.เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ สึกเงียบ โยงข่าวพัวพัน “สีกา ก.”
ตามข่าวระบุว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ลาสิกขาที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ช่วงเย็นวานนี้ ( เวลา 17.12 ) โดยมีคณะสงฆ์เป็นสักขีพยาน พร้อมระบุว่า “กระผมได้แจ้งไปยังสังกัดวัดโสธรฯ ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฏาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กระผมได้ลาสิกขา เพื่อดำรงไว้ซึ่งความงดงามแห่งหมู่สงฆ์ จึงกราบเรียนมาเพื่อทราบ รบกวนแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบด้วย” หลังจากการหน้านี้ได้หายตัวไปตั้งแต่วันพุธ (9 ก.ค.) และตกเป็นหนึ่งในพระชั้นผู้ใหญ่ที่เข้าไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ สีกา ก.
โดยที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา วันนี้ พบว่าสำนักงานกุฏิพระครูสิริวิริย ปิดเงียบ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและมีรายงานว่า ตำรวจพบหลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัด ซึ่งจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการใดๆ อยู่ระหว่างประสานเข้าให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ที่ลาสิกขาไปก่อนหน้านี้ 5 คน ก็ยังไม่พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเด็นสมัครใจมีความสัมพันธ์กับ สีกา ก.หรือตกเป็นผู้เสียหาย
หนึ่งในชาวบ้านหลังทราบข่าวว่า อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ได้ลาสิกขาไปแล้ว มองว่าอดีตพระครูฯ คงรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรลงไป จึงต้องยอมสึก ส่วนตัวรู้สึกเสียใจที่บวชเรียนมาตั้งนานแล้วมาทำแบบนี้ ยังดีที่ยอมสึกออกไป เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนามัวหมองไปมากกว่านี้

สำนักพุทธฯ เตรียมเพิ่มโทษ “พระ-ฆราวาส” เสพเมถุนจนปาราชิก
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า วันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมส่งร่างพระราชบัญ ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ให้กับนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาและว่าควรปรับปรุงส่วนใดบ้าง เนื่องจากเคยทำไว้แล้วเมื่อปี 2564-2565 แต่สถานการณ์ปัจจุบันกรณี “สีกา ก.” น่าจะเป็นโอกาสที่จะนำร่างพ.ร.บ.นี้มาทบทวนอีกครั้ง
สาระสำคัญดังกล่าว พ.ร.บ.นี้ จะมีบทลงโทษพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิกหรือประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยให้จำคุก ตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย โทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดทำให้พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัยต้องมีมลทินมัวหมอง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เชื่อว่าเมื่อพุทธศาสนิกชนเห็นวิกฤติครั้งนี้ น่าจะให้ความสนใจว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวในการนำมาใช้ป้องและปราม ผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งมีความผิดทางพระธรรมวินัยแล้ว ยังโดยกฎหมายอาญาด้วย .-สำนักข่าวไทย