นราธิวาส 6 ก.ค. – พบรถเก๋งต้องสงสัยถูกเผาทิ้งกลางถนน ก่อนถึงสะพานบาลอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียหายทั้งคัน
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา (6 ก.ค.) พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส, พ.อ.สิทธิชัย บำรุงเขต ผบ.ฉก.ทพ.46, เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบเหตุรถเก๋งถูกลอบวางเพลิง บนถนนก่อนถึงสะพานบาลอ ม.5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ได้รับความเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดช่วงเวลา 21.00 น. คืนวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเดินทางไปตรวจสอบ เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงดักสังหาร
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับเครื่องตรวจจับวัตถุโลหะในการเคลียร์พื้นที่ พบว่ารถเก๋งที่ถูกลอบวางเพลิง ยี่ห้อนิสสัน สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ผู้ครอบครองคือ น.ส.พรรณิภา ภูมิลำเนาอยู่ จ.นครปฐม ภาษีขาดเมื่อปี 2020 และพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวเป็น 1 ใน 2 คัน ที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนคนร้ายเตรียมนำมาประกอบคาร์บอมบ์ เพื่อใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ตากใบ สุไหงปาดี และสุไหงโก-ลก

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเชื้อเพลิงในการวางเพลิงรถยนต์คันดังกล่าว แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราดเข้าไปในห้องโดยสารแล้วจุดไฟเผา เนื่องจากเพลิงที่ลุกไหม้ทำลายหลักฐานไปโดยสิ้นเชิง
ด้านเจ้าหน้าที่แหล่งข่าวความมั่นคงที่ติดตามความเคลื่อนไหวของสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง เปิดเผยว่า เป็นคดีแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการทำลายหลักฐานยานพาหนะที่คนร้ายเตรียมใช้ก่อเหตุ และที่เป็นไปได้มากที่สุดจากการวิเคราะห์ กลุ่มคนร้ายอาจจะทราบว่ารถเก๋งคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่มีการเพ่งเล็งเป็นกรณีพิเศษ ให้เจ้าหน้าที่ทุกจุดตรวจจุดสกัดตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ทำให้คนร้ายไม่สามารถนำมาใช้ก่อเหตุได้ ที่สำคัญหากเจ้าหน้าที่ไปพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดหรือซุกซ่อนที่บ้านของผู้ใด อาจจะถูกจับกุมตัวมาสอบสวน จึงตัดสินใจแอบนำรถเก๋งดังกล่าวมาเผาทำลายทิ้ง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะขยายผลในการตรวจสอบกับชาวบ้านบริเวณจุดเกิดเหตุว่าใครเคยพบเห็นรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งผ่านไปมาในหมู่บ้าน หรือใครเคยพบเห็นว่าใครเป็นคนขับรถเก๋งคันนี้หรือไม่อย่างไร เพื่อขยายผลไปสู่การวางเพลิงรถเก๋งคันดังกล่าวทิ้ง.-712-สำนักข่าวไทย