ตราด 17 มิ.ย. – ชายแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ยังเปิดให้ขนส่งสินค้าเข้า-ออกปกติ ยกเว้นสินค้าเกษตร ผัก-ผลไม้ ขณะที่แรงงานกัมพูชาใน จ.ฉะเชิงเทรา อยากเห็นสันติภาพ อยู่ไทยเงินดี ไม่อยากกลับบ้าน
กรณีปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ทำให้ ตม.กัมพูชา ที่บ้านจามเยี่ยม จ.เกาะกง แจ้งมาที่ ตม.ไทย จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ห้ามส่งสินค้าเกษตร ผัก-ผลไม้ ข้ามแดนไปยังเกาะกง
เช้านี้ (17 มิ.ย.) บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รถกระบะที่บรรทุกผัก-ผลไม้ อาหารทะเล อาหารสด และรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขนส่งสินค้าทั่วไป และยังไม่แน่ใจกับคำสั่งห้ามดังกล่าว ต่างจอดรอคิวผ่านด่านเข้าไปยังฝั่ง ตม.บ้านจามเยี่ยม ประเทศกัมพูชา เป็นจำนวนมาก

โดยมีเจ้าหน้าที่ ตม.ฝั่งไทย แจ้งว่ารถบรรทุกสินค้าประเภทสินค้าเกษตร ผัก-ผลไม้ ตม.กัมพูชา สั่งห้ามเข้าไปฝั่งกัมพูชา ยกเว้นสินค้าอาหารทะเล อาหารสด และสินค้าทั่วไป ทำให้รถบรรทุกสินค้าเกษตรบางคันทยอยถอยรถกลับ แต่บางคันยังมีความหวัง จอดรอดูสถานการณ์ และบางคันถึงกับโอดว่าไม่รู้ข้อมูลมาก่อนว่าวันนี้นำสินค้าเข้ากัมพูชาไม่ได้ เพราะส่วนตัวขนผัก-ผลไม้มาจากตลาดไท ขับมาถึง 16.00 น. เข้ากัมพูชาเมื่อวานไม่ทัน จึงนอนค้างคืน แต่เช้ามากลายเป็นว่าเข้าไม่ได้ รู้สึกงง และคงต้องขนกลับ เพราะสินค้าที่เอามามีมากกว่า 3 ตัน ไม่เอากลับคงเสียแน่
แรงงานกัมพูชาไม่ขอกลับ วอนให้สงบศึก
แรงงานกัมพูชาที่อยู่ตลาดสุวินทวงศ์ ต.คลองอุดม ยอมรับว่าแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในตลาดค่อนข้างกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย อยากให้สถานการณ์สงบเรียบร้อย เพราะไม่อยากกลับประเทศบ้านเกิด อยู่ที่ไทยมีรายได้ มีเงินส่งกลับบ้าน
อย่างนายเหง่า วันดี ชาวกัมพูชา บอกว่า มาทำงานที่ไทยพร้อมกับภรรยาได้ 4 ปีแล้ว ได้เงินเดือนๆ ละ 15,000 บาท สองคนก็ได้เดือนละ 30,000 บาท ไม่รวมค่าล่วงเวลา ทำให้มีเงินเหลือกินเหลือใช้ส่งกลับบ้าน หากตอนนี้อยู่กัมพูชา คงต้องทำนา ทำงานก่อสร้างทั่วไป ทำนาก็ได้เงินแค่ปีละครั้ง ไม่พอใช้ชีวิตแน่นอน
เช่นเดียวกับ นางสาวปิไส ซื่น บอกว่า อยู่ไทยมา 2 ปี ยังไม่อยากกลับบ้านเกิด เพราะกลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร อยากให้ทั้ง 2 ประเทศกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม.-สำนักข่าวไทย