ตราด 4 มิ.ย. – ระทึก! พายุลมแรงพัดต้นไทรอายุ 70 ปี หักโค่นล้มทับบ้านและร้านค้าริมถนนพังทั้งหลัง หญิงวัย 43 ปี ต้องคลานหนีตายออกจากบ้าน ส่วนที่นนทบุรี บ้านไม้พังครืนจมลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้หญิงเจ้าของบ้านวัย 69 ปี บาดเจ็บ
สภาพต้นไทรขนาดยักษ์ อายุราว 70 ปี หักโค่นล้มทับบ้านและร้านค้าริมถนนพังทั้งหลังจนแทบไม่เห็นสภาพบ้านหลงเหลือ มีแต่ซากกองกิ่งไม้ปกคลุม เหตุเกิดบริเวณริมสะพานยายหลา ถนนสายท่าเรือจ้าง ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองตราดระดมกำลังช่วยกันตัดกิ่งต้นไทรยักษ์ออก แต่คาดว่าต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 วัน จึงจะตัดและเคลื่อนย้ายต้นไทรออกจากจุดเกิดเหตุได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันอุปสรรคคือกิ่งที่มีขนาดใหญ่และจำนวนมาก ต้องใช้กำลังหลายหน่วยงาน ทั้งรถเครนและเลื่อยยนต์
นางสาวยุวดี อายุ 43 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ บอกว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษของวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีพายุฝนลมกระโชกแรงพัดมาวูบเดียว ตนนอนอยู่ได้ยินเสียงดังสนั่น ก่อนต้นไม้ล้มทับบ้านจนพังทั้งหลัง ตนต้องคลานหนีตายออกมา ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีเหตุการณ์กิ่งต้นหูกวางหักมาใส่หลังคาแล้ว แต่ไม่หนักเท่าครั้งนี้
หญิง 69 ปี รอดตายบ้านพังลงแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนที่ จ.นนทบุรี บ้านไม้มุงสังกะสีหลังหนึ่งพังครืนทั้งหลังจมลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในซอยพิบูลสงคราม 1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ทำให้นางทรง อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน บาดเจ็บมีบาดแผลที่แขนซ้าย เส้นเอ็นบาดเจ็บ เบื้องต้นแพทย์ฉีดยาบำรุงและเอกซเรย์ร่างกายแล้วไม่พบว่ามีกระดูกส่วนใดหักหรือได้รับอันตราย
นางทรง เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังเก็บย้ายสิ่งของในบ้านให้เข้าที่เข้าทาง เพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย กลัวจะเปียกฝน จู่ๆ ได้ยินเสียงดังครืนแล้วบ้านก็ถล่ม ตนติดอยู่ในบ้านด้วย แต่โชคดีมีชาวบ้านและพี่ชายอยู่บ้านใกล้กันลงไปช่วย จากนี้ไม่มีบ้านอยู่ คงต้องไปอาศัยบ้านพี่ชายอยู่ก่อน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้.-สำนักข่าวไทย