เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล
หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค
นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ

นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน เรื่องการปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก พร้อมแจกจ่ายแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยง โดยเน้นห้ามสัมผัสน้ำโดยตรงและห้ามจับปลามาบริโภค
นายสีทน คำแปง ชาวบ้านบ้านรวมมิตร และผู้จัดการปางช้างบ้านรวมมิตร กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวหายไปกว่า 80% เนื่องจากไม่สามารถจัดกิจกรรมนั่งช้างลุยแม่น้ำกกได้เหมือนเดิม เพราะกังวลเรื่องสารหนู ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองเป็นจำนวนมาก กิจกรรมล่องแพในแม่น้ำกกก็ต้องยุติไปหมด ตั้งแต่มีข่าวการปนเปื้อน ตอนนี้เหลือช้าง 9 เชือก รายได้ไม่เพียงพอค่าใช้จ่าย ทางปางช้างห้ามไม่ให้ช้างลงเล่นน้ำ และหันมาใช้น้ำจากประปาภูเขาแทน ส่งผลให้ต้องจำกัดปริมาณการดื่มน้ำของช้าง จากเดิมวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 12-15 คำ (ประมาณ 8-10 ลิตรต่อคำ) เหลือเพียงครั้งละ 5-6 คำ โดยต้องให้ช้างต่อคิวกันดื่มน้ำจากบ่อพัก ทั้งนี้ ได้ต่อท่อประปาระยะทาง 4 กิโลเมตร เพื่อให้ช้างได้เข้าถึงน้ำสะอาดมากขึ้น
โดยในช่วงเดือนเมษายน ควาญช้างนำช้างไปอาบน้ำในแม่น้ำกก หลังจากนั้น 2-3 วัน พบว่าช้างมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล ส่วนควาญช้างก็ติดเชื้อบริเวณหัวเข่า ชาวบ้านในพื้นที่บ้านรวมมิตรและบ้านผาเสริฐ ต่างวิตกกังวลว่าสารหนูในแม่น้ำกกอาจซึมเข้าสู่บ่อน้ำตื้นที่ใช้สำหรับอุปโภคบริโภค จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชน ขณะที่ชาวบ้าน บ้านป่าอ้อแม่ยาว ซึ่งเคยใช้แม่น้ำกกในการหาปลา เลี้ยงชีพ ต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว เพราะกังวลเรื่องสารพิษตกค้าง.-สำนักข่าวไทย