นครปฐม 15 พ.ค. – ญาติโยมยังเดินทางกราบไหว้ขอพร “หลวงพ่อไร่ขิง” เพราะยังเชื่อมั่นศรัทธา ไม่เกี่ยวพฤติกรรมเจ้าอาวาส มองเป็นเรื่องส่วนบุคคล ขณะที่ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เผยเป็นความอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการสงฆ์
ที่วัดไร่ขิงพระอารามหลวง อ.สามพราน จ.นครปฐม หลังเจ้าอาวาสวัดถูกตำรวจสอบสวนกลางดำเนินคดีในข้อหายักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท ไปเล่นพนันออนไลน์ พบว่าบรรยากาศในวัดยังมีชาวบ้าน นักเรียน ในพื้นที่เดินทางมากราบไหว้ขอพร “หลวงพ่อไร่ขิง” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวนครปฐม ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ กันตามปกติ แต่ไม่มากเท่าวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน
ญาติโยมเผยเชื่อมั่นศรัทธาในองค์หลวงพ่อไร่ขิง
จากการสอบญาติโยม ชาวบ้านในพื้นที่หลายคนต่างไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง บางคนบอกว่าไม่รู้เรื่อง ขณะที่บางคนบอกว่าเรื่องดังกล่าวเชื่อว่าไม่กระทบต่อศรัทธาของชาวบ้าน เพราะคนที่เข้ามาวันนี้ต่างเลื่อมใสศรัทธาในองค์ หลวงพ่อไร่ขิง ที่ประดิษฐสถานอยู่ในพระอุโบสถ ตัวพระท่านก็ปฏิบัติตามศาสนกิจของสงฆ์เท่านั้น ส่วนเรื่องรายได้ของวัด ส่วนหนึ่งมาจากเงินทำบุญของญาติโยม รวมถึงมาจากงานประจำปี ที่พ่อค้าแม่ค้าต่างมาประมูลพื้นที่ขายของในงานวัด
“พระพยอม” เปรียบเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นภิกษุมหาโจร
พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงกับส่ายหน้าหลังทราบข่าว มองว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดของวงการสงฆ์ ที่พระระดับชั้นธรรมมาพลาด ทั้งๆ ที่มีศีล สมาธิ ปัญญา แต่ไม่ได้เอามารักษาคุ้มครองตัว พร้อมตั้งคำถามว่าคณะกรรมการวัดไม่ทราบว่ารู้เห็นกับเรื่องนี้หรือไม่ หรือมีส่วนแบ่งหรือได้เปอร์เซ็นต์จากการเล่นพนัน หากรู้เรื่องน่าจะห้ามปรามบ้าง
แบบนี้พระพุทธเจ้าเคยเรียกว่า “ภิกษุมหาโจร” เอาอาวุธซุกซ่อนในจีวร แต่คราวนี้ยิ่งกว่ามหาโจร เพราะปล้นไปได้ตั้ง 300 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามหลักพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าท่านกล่าวไว้ว่า “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง” จบเห่ชนิดที่ต้องติดคุกติดตะราง น่าสะเทือนใจตรงที่ว่าท่านไม่รักษาความดี ไม่เป็นพระดี ได้เงินได้ทองยังไม่ดีเท่ากับเป็นพระดี.-สำนักข่าวไทย