ขอนแก่น 14 พ.ค. – แม่ทัพภาค 2 ปฏิเสธข่าวทหารกัมพูชาเสริมกำลังแน่นด้านปราสาทโดนตวล จังหวัดศรีสะเกษ ยืนยันเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังปกติ และไม่มีความขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านภาคอีสาน หลังมีกระแสข่าวทหารกัมพูชาเสริมกำลังจำนวนมากเข้าประชิดชายแดนด้านปราสาทโดนตวล อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ยืนยันว่าเป็นการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชาในบริเวณที่ตั้งทางทหาร ไม่มีการเพิ่มกำลังจากเดิม
ส่วนสถานการณ์ขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติ กองทัพภาค 2 มีมาตรการพูดคุยกับทหารประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ซึ่งได้รับนโยบายของผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เน้นการพูดคุยกันเป็นหลัก เพื่อลดโอกาสการปะทะกันหรือไม่เข้าใจกัน เพราะจะกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าขาย ซึ่งพี่น้องตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ ไม่อยากให้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน รวมถึงพื้นที่ล่อแหลมที่กำลังทหาร 2 ฝ่ายประกบกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะยังไม่ชัดเจนในการปักปันเขตแดน ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ให้แยกออกจากกัน กลับไปอยู่ในที่ตั้งปกติ ไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดเกินไป ยืนยันว่าปราสาทตาเมือนธม อยู่ในเขตของไทย พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ มีกำลังทหารคอยดูแลนักท่องเที่ยวชาวไทย มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว เราก็อนุโลมให้ตามข้อตกลงอยู่แล้ว

เชื่อสื่อสารพิดพลาด ยืนยันพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง
ส่วนกระแสโซเชียลที่พยายามจะเสี้ยมให้ทะเลาะกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในประเด็นสั่งถอยกำลังทหารแล้วไม่ถอยนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกัน ล่าสุดได้มีการพบปะพูดคุยกันด้วยดีที่จังหวัดนครพนม มีการให้กำลังใจ และเป็นห่วงทหารตามแนวชายแดน ซึ่งตนพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับอยู่แล้ว เพียงแต่อาจมีการสื่อสารผิดพลาดเท่านั้น ขอบคุณคนไทยที่รักประเทศชาติ กำลังพลตามแนวชายแดนพร้อมปฏิบัติหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติอย่างถึงที่สุด
ส่วนบรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ทหารไทยยังคงอยู่ที่ปราสาทตาเมือนธม ดูแลผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมตัวปราสาทเป็นอย่างดี โดยยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมต่อเนื่องเป็นระยะๆ .-สำนักข่าวไทย