แจ้ง 4 ข้อหาหนักเพื่อนรักปืนโหด สารภาพมึนเมาขาดสติ

นนทุบรี 4 พ.ค.- ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก เพื่อนรักปืนโหด คุมฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี สารภาพมึนเมาขาดสติ มีปากเสียงชกต่อย ก่อนบานปลายขับรถไล่ชน และกระหน่ำยิง 17 นัดดับคาที่


วงจรปิดจับภาพ เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 00.50 น. ผู้ก่อเหตุขับรถเก๋งสีขาวเบียดท้าย รถผู้ตายมาก่อนจะได้ยินเสียงร้องขอชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุคว้าปืนรัวยิงใส่ และขับรถหลบหนีไป จนช่วงเวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งเหตุชายถูกกระหน่ำยิงเสียชีวิต 1 ราย ภายในซอยต้นสน 15 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรีบเข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึง

ที่เกิดเหตุบริเวณข้างรถพบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายวีรวัฒน์ หรือ หนุ่ม อายุ 40 ปี เป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนออโตเมติก ไม่ทราบขนาด จำนวนหลายนัด จนทำให้แขนขวาหักผิดรูป นอนจมกองเลือดเสียชีวิตข้างรถยนต์ สีดำ ซึ่งสภาพด้านหลังมีร่องรอยถูกชนกันชนแตก และพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ 13 นัด  ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิท ทราบชื่อ นายสิทธิพงษ์ หรือ แม็ก อายุ 41 ปี ได้ขับรถหลบหนีไป


จากการสอบถามนายโอม เพื่อนผู้เสียชีวิตที่นั่งรถมาด้วยกัน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ตายเป็นเพื่อนรักกันมากว่า 10 ปีแล้ว ทำงานด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็คุยกันตลอดก่อนเกิดเหตุประมาณ 20.00 น. ผู้ก่อเหตุ ผู้ตายและกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน ได้ออกมานั่งดื่มเหล้าด้วยกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เตือนผู้ตายเรื่องมีกิ๊กในที่ทำงาน เนื่องจากผู้ตายมีภรรยาอยู่แล้ว ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน จนผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก กระทั่งเวลา 00.30 น. หลังจากนั้นทั้งคู่แยกย้ายกันกลับบ้าน ผู้ก่อเหตุได้ขับรถไล่ชนรถของผู้ตาย ซึ่งมีเพื่อนในกลุ่มนั่งอยู่ด้วย ก่อนที่จะชักปืนออกมากระหน่ำยิงผู้ตาย จนเสียชีวิตคาที่แล้วหลบหนีไป

ช่วงเวลา 14.30 น. ครอบครัว ญาติพี่น้องและภรรยาของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป ประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ ในพิธีมีการนำข้าวผัดกะเพรา ขนมหวาน และน้ำแดงมาวางเพื่อเซ่นไหว้ พร้อมจุดธูป 9 ดอก เที่ยน 1 เล่ม และกรวดน้ำตามความเชื่อ เพื่อส่งดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า ญาติพี่น้องต่างเดินทางมาร่วมพิธีด้วยความอาลัย โดยครอบครัวจะนำศพกลับไปตั้งสวดอภิธรรมศพที่วัดไทรใหญ่ ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ก่อนจะฌาปนกิจในวันที่ 6 พ.ค. 68

ด้าน น.ส.แป๋ว อายุ 41 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนคุยกับสามีเมื่อช่วงหัวค่ำ ก่อนสามีจะโทรมาบอกว่าออกไปร้านเหล้า มีเพื่อนผู้หญิงโทรมาชวนอ้างว่าเป็นเพื่อนที่ทำงาน ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกับที่อยู่ในรถตอนเกิดเหตุหรือเปล่า เพราะตนไม่รู้จัก ส่วนนายแม็กผู้ก่อเหตุ เป็นเพื่อนสนิทกับสามีตน ชวนกันไปกินเหล้าบ่อยๆ ซึ่งตนไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงเกิดเหตุดังกล่าว


เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 1 ร่วมกับสืบสวน สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี สามารถจับกุมตัว นายสิทธิพงษ์ หรือ แม็กซ์ อายุ 41 ปี (ผู้ก่อเหตุ) ได้แล้วที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในเขตเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีต่อที่ สภ.ปากเกร็ด

ตร.คุมตัวมือยิงเพื่อนรัก 17 นัดทำแผน

ต่อมา พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้ควบคุมตัวนายสิทธิพงษ์ (ผู้ต้องหา) ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายสิทธิพงษ์ มาทำแผน มีใบหน้าหน้าเคร่งเครียด ก้มหน้าตลอดเวลา ทีมข่าวได้พยายามสอบถามถึงสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ นายสิทธิพงษ์ เผยเพียงว่า ตนได้มีการชกต่อยกัน ก่อนจะมีปัญหากันต่อเนื่องจนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่ายิงไปทั้งหมดกี่นัด หลังจากที่ยิงเสร็จ ตนได้ขับรถขึ้นสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าไปที่ จ.สุพรรณบุรี เพื่อหลบหนี ส่วนอาวุธปืนเป็นของพ่อซึ่งเป็นอดีตตำรวจ ที่ตนนำมาเพื่อพกไว้ติดตัว ตนยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวแต่อย่างใดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี  เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขณะลงมือก่อเหตุมีอาการมึนเมาและขาดสติ จึงใช้ปืนที่พกไว้ติดตัวเป็นของพ่อ ยิงใส่ผู้ตาย หลังก่อเหตุจะหลบหนีไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี แต่เกิดรถเสียที่พื้นที่บางเลน จ.นครปฐม เนื่องจากรถเฉี่ยวชนกับรถของผู้ตายจนเครื่องร้อน ผู้ต้องหาจึงติดต่อให้บิดามารับแล้วถูกจับได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าจะเกิดจากการมีปากเสียงกัน ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าอาวุธปืนมีทะเบียนหรือไม่ ก่อนจะเร่งสรุปสำนวนเพื่อขออนุมัติฝากขัง

ล่าสุด เมื่อช่วง 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถนำตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดนนทบุรีแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]