เชียงใหม่ 24 มี.ค. – หมอกควันปกคลุมทั่วเมืองเชียงใหม่ ค่าฝุ่นพิษพุ่งเช้านี้ขึ้นเป็นอันดับ 5 ของโลก
ชาวเชียงใหม่ ยังคงเผชิญหมอกควันฝุ่นพิษที่กลับมาปกคลุมทั่วเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง บางจุดพุ่งสูงเกินกว่า 3ร้อยไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว เป็นคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก จนทำให้เมืองเชียงใหม่ ถูกจัดอันดับขึ้นเป็นเมืองมลพิษสูงสุดอันดับ 5 ของโลก ล่าสุดประกาศเขตภัยพิบัติจากไฟป่า 2 อำเภอ
สภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ เต็มไปด้วยหมอกควันฝุ่นพิษ PM2.5 ปกคลุมทั่วเมืองจนมองไม่เห็นดอยสุเทพชาว ชาวเชียงใหม่ที่ต้องเดินทางออกนอกอาคาร เริ่มรู้สึกแสบตา แสบจมูก และมีอาการไอบ้างแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ป่วยโรคภูมิแพ้ และกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากขึ้นแล้ว แม้บางคนจะสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันแล้วก็ตาม หลายคนจึงต้องดูแลตัวเองด้วยการเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้านไปก่อนในช่วงนี้ ขณะที่ย่านประตูท่าแพ ยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวถ่ายรูปตามปกติ แต่จะมีทั้งกลุ่มที่สวมแมสก์และไม่สวม
โดยค่าฝุ่นพิษรายชั่วโมงเช้านี้ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ cmuccdc รายงานค่าฝุ่นพิษ PM2.5 รายชั่วโมง เมื่อเวลา 10.00 น. สูงสุดอยู่ที่ 611 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปางเฟือง คุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก และที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านปางมะเยา ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ สูง 256 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก ส่วนในอำเภอเมืองค่าฝุ่นสูงสุดรายชั่วโมง อยู่ที่ 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพมากเช่นเดียวกัน
ขณะที่เว็บไซต์ของไอคิวแอร์จัดอันดับเมืองหลัก ที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก โดยเมื่อช่วง 10 นาฬิกา เชียงใหม่ยังคงเป็นอันดับ 5 มีค่าฝุ่น อยู่ที่ 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนกรุงเทพมหานคร อันดับ 7 อยู่ที่ 163 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในเช้าวันนี้ ล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 5 ตำบล ใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว และ อำเภออมก๋อย พร้อมสั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือ จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุถึงการออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องปราม และจับกุมผู้ลักลอบกระทำผิดตามกฎหมาย เป็นการประกาศภัยพิบัติ เฉพาะเท่าที่จำเป็น รายพื้นที่หมู่ ตำบลอำเภอ และเพื่อการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัด โดยสั่งการให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด. -719-สำนักข่าวไทย
