พังงา 23 มี.ค. – ผู้การพังงา แถลงข่าวจับกุม 4 หนุ่มจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนอาวุธสงคราม พบ 1 ใน 4 พัวพันกลุ่มก่อเหตุไม่สงบในพื้นชายแดนภาคใต้
พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า สภ.เมืองพังงา ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณสามแยกวังหม้อแกง ริมถนนสายพังงา-ทับปุด ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 04.00 น. เพื่อป้องปรามการกระทำผิดและตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย ต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เทา ทะเบียนปัตตานี มีนายอับดุลรอแม อายุ 49 ปี ชาวยะรัง จ.ปัตตานี เป็นคนขับ และมีนายไฟซอล อายุ 28 ปี ชาว อ.เมืองยะลา นั่งข้างคนขับ และมีรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียนสงขลา พบนายซูลอัฟฟัล อายุ 28 ปี ชาว อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นคนขับ และมีนายเสาวรุส อายุ 27 ปี ชาว อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นั่งข้างคนขับ ขับรถกระบะต้องสงสัย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง ส่วนผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถฟอร์จูนเนอร์ มีลักษณะท่าทางน่าสงสัย จึงเรียกหยุดตรวจและขอตรวจสอบ ขณะตรวจสอบรถยนต์ทั้งสองคันมีท่าทีไม่ยินยอมให้ตรวจค้น จึงเชิญลงจากรถทั้งสองคัน เพื่อตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบกระสอบปุ๋ยสีขาว 1 ใบ ด้านในบรรจุอาวุธปืนเล็กยาวจู่โจม AK-47 ความยาวลำกล้อง 369 มม. จำนวน 4 กระบอก เครื่องกระสุน AK-47 ขนาด 7.62 มม. จำนวน 9 นัด บรรจุในซองกระสุน รวม 54 นัด พานท้ายปืน จำนวน 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังของรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์
จากการสอบถามทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสี่เดินทางมาด้วยกัน โดยรถกระบะขับนำ ส่วนรถฟอร์จูนเนอร์ขับตาม เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมและตรวจสอบของตำรวจ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสี่ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็น และหลังจากนี้จะส่งอาวุธปืนไปตรวจสอบที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เนื่องจากอาวุธดังกล่าวนั้นนำมาจากพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งทางศูนย์จะมีข้อมูลทั้งหมดตรวจสอบได้อย่งรวดเร็วว่าอาวุธดังกล่าวเคยใช้ก่อเหตุในพื้นชายแดนภาคใต้หรือไม่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า รับปืนมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้ค่าจ้าง 70,000 บาท ให้นำมาส่งวางไว้ตามพิกัดที่ทางผู้ว่าจ้างจะแจ้งเมื่อถึง จ.พังงา แต่มาโดนจับก่อนได้รับพิกัดวางของ ขณะนี้ตำรวจภาค 8 และภาค 9 ได้สอบสวนเชิงลึกว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้หรือไม่ หรือก่ออาชญากรรมอื่นๆ
แหล่งข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า 1 ใน 4 ผู้ต้องหา มีประวัติอยู่ในกลุ่มก่อเหตุไม่สงบชายแดนภายใต้ คาดเป้าหมายน่าจะอยู่ในพื้นที่พังงา-ภูเก็ต . -718 สำนักข่าวไทย