ฉะเชิงเทรา 18 มี.ค. – “ป้าแอ๊ด” ที่เคยคิดสั้นจะกระโดดแม่น้ำบางปะกง เพราะรับไม่ได้ที่เห็นสามีต้องไปแย่งข้าวสุนัขกินเพราะความหิว วันนี้มีรอยยิ้มกับชีวิตจากน้ำใจคนไทยที่ร่วมบริจาคช่วยเหลือจนทะลุ 800,000 บาทแล้ว เตรียมปิดรับบริจาค ทั้งยังมีน้ำใจแบ่งปันของบริจาคและเงินบางส่วนให้กับผู้ที่เดือดร้อนกว่า
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา มีคนเห็นป้าแอ๊ด หรือนางอัญชนี อายุ 54 ปี นั่งเหม่อลอยอยู่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำบางปะกง หลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา อ.เมืองฉะเชิงเทรา คิดจะฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราจึงลงไปบุกชาร์จควบคุมเอาไว้ ก่อนพาขึ้นมานั่งพูดคุยสอบถามถึงปัญหา
วันนั้นป้าแอ๊ดร้องไห้อย่างหนัก บอกว่าเสียใจ ไม่มีเงินซื้อข้าวไปให้สามีที่ป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ สามีหิวต้องไปแย่งอาหารของสุนัขจรจัดมากิน ตนรับไม่ได้ รู้สึกเจ็บปวดหัวใจที่ดูแลสามีได้ไม่ดี แต่เพราะตนทำงานอยู่คนเดียว หาเงินเลี้ยงดูสามีที่ป่วย ตลอดจนค่าใช้จ่ายต่างๆ ค้างค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ ค่ารถจักรยานยนต์ รายรับไม่พอรายจ่าย น้อยใจในโชคชะตา ไม่อยากรับรู้ปัญหา ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยเหลือเบื้องต้น โดยมอบเงินและสิ่งของจำพวกข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ให้ป้าแอ๊ดไว้ใช้ยังชีพชั่วคราว

ทันทีที่ภาพข่าวเหล่านี้ปรากฏออกไป มีน้ำใจคนไทยหลั่งไหลช่วยเหลือป้าแอ๊ด จนเปลี่ยนคราบน้ำตาในวันนั้น กลับมาเป็นรอยยิ้มได้ในวันนี้
ป้าแอ๊ดบอกว่าวันนี้เหมือนได้ชีวิตใหม่ ขอบคุณหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และมูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยเหลือ มอบเงินและเครื่องอุปโภคบริโภค พูดคุยให้กำลังใจสู้ชีวิตต่อไป เจ้าของร้านค้าต่างๆ ที่อยากช่วยให้มีงานทำ มีที่พักฟรี เจ้าอาวาสวัดสมานรัตนาราม บอกจะรับเป็นแม่บ้านที่วัด รวมทั้งเงินบริจาคจากคนไทยทั่วประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดเงินเมื่อช่วง 12.00 น.ที่ผ่านมา ทะลุ 800,000 บาทแล้ว
ถึงกระนั้นป้าแอ๊ด กลับไม่โลภ ไม่หลง และประกาศปิดรับบริจาคแล้วเมื่อเวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา บอกว่าได้มากพอแล้ว เงินบริจาคที่ได้มาจะเอาไปปิดหนี้ทั้งหมด เช่าห้องระยะยาว เป็นค่ารักษาพยาบาลสามี ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในบ้าน เงินอีกก้อนจะเอาไปบริจาคให้กู้ภัยฉะเชิงเทรา นำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนด้านต่างๆ ส่งต่อบุญจากผู้ที่ให้เงินตนมา
ส่วนข้าวของเครื่องใช้จะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนแรกเก็บไว้แค่พอกิน พอใช้สองคนตายาย ส่วนที่สองจะประสานประธานชุมชนท่าข้าม ช่วยนำไปแจกคนที่เดือดร้อนในชุมชนและเพื่อนข้างห้องเช่า ส่วนที่สามส่งมอบกลับไปให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำไปแจกจ่ายให้กับคนที่เดือดร้อน และส่วนสุดท้าย หลังจากเรื่องนี้จบตนจะตระเวนขี่รถจักรยานยนต์นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้กับคนเร่รอนตามสถานที่ต่างๆ ได้มีข้าวกินประทังชีวิต เพราะตนเองเคยลำบากมากถึงที่สุด แต่โชคดีที่คนไทยช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย