เจ้าสาวแจ้งจับเจ้าบ่าวเทงานแต่ง เสียค่าจัดงานกว่า 5 แสน

นครศรีธรรมราช 12 มี.ค. – แจ้งจับหนุ่มเซลส์ขายสี เทงานแต่งหายตัวล่องหน ทิ้งเจ้าสาวเศร้า เสียค่าจัดงานกว่า 5 แสนบาท หลังคบกันได้ 1 ปี 6 เดือน ด้านเจ้าบ่าววอนเห็นใจ เทงานเพราะญาติเจ้าสาวขู่ยิงทิ้ง


นางสาวชฎารัตน์ อายุ 34 ปี เจ้าสาวสุดช้ำในจังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าว่า นายนพัส อายุ 33 ปี เจ้าบ่าว ทิ้งงานแต่งงานเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) ปล่อยให้ตนและครอบครัวอับอาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตกลงกันอย่างดีว่า หลังจากแต่งงานจะไปเช่าตึกเพื่อขายสีที่ตลาด เนื่องจากฝ่ายชายเป็นพนักงานขายสีทาบ้าน ก่อนจะลาออกแล้วขอตนแต่งงาน อ้างว่ามีเงินสินสอดและทองพร้อมแล้ว ตนจึงตกลงปลงใจแต่งงานหวังจะสร้างครอบครัวด้วยกัน จึงมีการนัดมาสู่ขอเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายอ้างว่า ติดธุระด่วน แต่จะเดินทางมาที่บ้านของตนวันที่ 8 ก.พ. แทน โดยจะมาพร้อมแม่และญาติอีก 4 คน

ระหว่างนั้น ตกลงจะแต่งงานกันวันที่ 11 มี.ค. ครอบครัวตนเรียกสินสอดเป็นเงินสด 300,000 บาท และทองคำหนัก 2 บาท ซึ่งนายพนัส ตอบตกลงโดยไม่มีเงื่อนไข จึงเริ่มวางแผนการเตรียมงานแต่งงานโดยติดต่อเช่าชุดขันหมาก พรีเวดดิ้ง แบ็กดร็อป รวมถึงช่างภาพและวงดนตรี ซึ่งนายพนัส อ้างว่า จะเป็นคนติดต่อและเลือกเอง ส่วนตนเป็นคนโอนเงินมัดจำให้เท่านั้น แต่ก็เริ่มเอะใจ ขอดูหลักฐานค่ามัดจำในส่วนต่างๆ แต่นายพนัสบอกว่าไม่มี และขอให้เชื่อใจ ซึ่งตนเห็นว่าคบหากันมานาน 1 ปี 6 เดือนแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะหลอกกัน


ทั้งนี้ ตนพิมพ์การ์ดเชิญแขก 500 ใบ และส่งให้นายนพัสไป 100 ใบ ระหว่างนี้ก็มีการเตรียมสถานที่ นำเต็นท์และโต๊ะอาหารมาจัดตั้งในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งนายนพัสบอกว่า คนที่ติดตั้งแบ็กดร็อป ก็จะมาในวันนี้เหมือนกัน แต่ตนรอจนถึงค่ำก็ยังไม่มา พอโทรไปตามกับนายนพัส กลับบอกว่า ล้มบาดเจ็บนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ แต่พอญาติของตนและเพื่อนไปที่โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งหมอบอกว่า บาดเจ็บเล็กน้อย กลายเป็นว่าไม่พบตัวเจ้าบ่าว ทำให้ญาติและตนเริ่มเอะใจแล้วว่า เจ้าบ่าวมีปัญหาแน่ๆ ซึ่งตนพยายามต่อรองให้พ่อแม่ของเจ้าบ่าวนำขันหมากมาทำพิธีแทน เพราะงานก็เตรียมไปเยอะแล้ว แต่สุดท้ายบ่ายเบี่ยง ทำให้ตนมั่นใจว่าถูกทิ้งแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวตนยังคงจัดงานเลี้ยงตามปกติ และกลางคืนก็มีดนตรีเต้นรำในวงญาติพี่น้อง ซึ่งตนพยายามไม่คิดอะไรมาก และรอนายนพัสติดต่อมา แต่ก็เงียบหาย จึงไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ให้นายนพัสนำเงิน 300,000 บาท มาคืนซึ่งเป็นเงินค่ามัดจำที่นายนพัสอ้างว่า เป็นการเตรียมงานต่างๆ และตนยังไปแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ด้วย เพราะนายนพัสนำรถกระบะและรถจักรยานยนต์ของตนไป ต่อมา มีเพจร้านเวดดิ้งโพสต์ว่า มีเจ้าสาวอีกคนทักมาบอกว่า นายพนัส เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน หลอกจะแต่งงานแล้วก็เท ทำให้ตนรู้ว่า ตนไม่ใช่รายแรก แต่ยังมีหญิงผู้เสียหายคนอื่นอีก ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ที่มาสร้างความอับอายให้กับผู้หญิง

ภายหลัง นายนพัส เจ้าบ่าวเทงานแต่ง โทรศัพท์มาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพื่อเล่าในมุมตัวเองบ้าง โดยบอกว่า รู้จักกับเจ้าสาวผ่านโซเชียล และช่วงที่คบหากันประมาณ 1 ปีครึ่ง และให้เงินเจ้าสาวเดือนละเกือบ 10,000 บาททุกเดือน กระทั่งตนตกงานประมาณ 5-6 เดือนที่ผ่านมา และออกมาตกกุ้งขาย ซึ่งระหว่างที่คบหากันก็ไปด้วยดี พ่อแม่ดีกับตนมาก ตนก็เคารพพ่อแม่ฝ่ายหญิงเช่นกัน จนช่วงจะแต่งงาน กลายเป็นว่า ญาติของฝ่ายหญิงบุกมาด่าทอแม่ของตนและตนถึงโรงพยาบาล และขู่จะยิงทิ้ง ซึ่งตนรับไม่ได้


ถ้าตนไม่อยากแต่งงาน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ตนจะไปรับชุดพรีเวดดิ้งที่บ้านเจ้าสาวทำไม และพอรุ่งขึ้น (10 มี.ค.) ตนก็จัดเตรียมขันหมาก แต่วันนั้นตนลื่นล้มในห้องน้ำและมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับไปส่งโรงพยาบาล บาดเจ็บเส้นเอ็นขาดเดินไม่สะดวก และหมอให้พักฟื้น 1 คืน แต่ตนต่อรองกับหมอว่า ขอออกตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 11 มี.ค. เพราะต้องไปแต่งงาน แต่ประมาณ 21.00-22.00 น. ญาติฝ่ายหญิงบุกมาด่าทอตนและแม่อีกว่า ทำไมตนไม่ไปแต่งงาน และข่มขู่จะยิงทิ้ง ซึ่งตนก็บอกฝ่ายหญิงไปแล้วว่า ไปแต่งงานแน่นอน จึงไม่เข้าใจว่าจะให้ญาติมาต่อว่าตนทำไม

และพอเช้าวันแต่งาน ตนโทรหาเจ้าสาวแต่ไม่รับสาย ตนก็กลับไปที่บ้าน และญาติเจ้าสาวก็มายืนเต็มหน้าบ้าน ข่มขู่ว่า “เจอที่ไหนจะยิงที่นั่น” ซึ่งตนก็นั่งอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน ทำให้ตนรับไม่ได้ต่อการกระทำดังกล่าว ยอมรับว่า ผิดจริงที่ไม่ไปงานแต่ง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเตรียมงาน ตนก็เป็นคนออกเองทั้งหมด และไม่ใช้จำนวนเงิน 500,000 บาท ตามที่กล่าวอ้างอีกทั้ง ตนเองยังให้เงินเจ้าสาวไป 20,000 บาท เพื่อเตรียมงาน ส่วนเรื่องรถกระบะกับรถจักรยานยนต์ ตนไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ยืมมาใช้

ส่วนเรื่องผู้หญิงอีกคนมากล่าวหาว่าไปหลอกแต่งงานเหมือนกัน นายนพัส ยอมรับว่า เคยคบหาถึงขั้นจะแต่งงานจริง แต่เลิกกันก่อน เพราะจับได้ว่าฝ่ายหญิงแอบคุยกับเพื่อนตน ตอนนี้ตนโดนสังคมประณาม ทำให้เครียดมาก และจะไม่กลับไปคืนดีอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร